ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อ 19 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ส่วนใหญ่เห็นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจมีความต่อเนื่องชัดเจนเพียงพอและมีแนวโน้มขยายตัวสอดคล้องกับศักยภาพ สามารถรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ได้ โดยประเมินว่าการลดระดับความผ่อนคลายของนโยบายการเงินลงเล็กน้อยจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป แต่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว
กนง.ยังได้อภิปรายเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป โดยเห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะยังมีความเหมาะสมในระยะข้างหน้า และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยอาจไม่เป็นไปอย่างต่อเนื่องดังเช่นในอดีต
นอกจากนี้ ขอให้ติดตามการสะสมความเปราะบางในระบบการเงินในอนาคต ประกอบด้วย 1.พฤติกรรมการก่อหนี้ครัวเรือนที่แม้ทยอยปรับลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง สินเชื่อรถยนต์เร่งตัวต่อเนื่อง ขณะที่ดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมีผลต่อฐานเงินออมในอนาคต โดยเฉพาะในภาวะที่กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย 3.พฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงแต่ประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร เช่น การดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ยังให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกในอัตราสูง ขณะเดียวกันต้องติดตามกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีการระดมทุนมากขึ้นในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อขยายการลงทุนทั้งในกิจการเดิมและกิจการที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก รวมถึงกิจการในต่างประเทศ.