ธปท.เล็งออกเกณฑ์ล้อมคอก จัดเต็ม "สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ" เอาเปรียบ

ธปท.เปิดรับฟังความเห็น 28 ก.ย.–12 ต.ค.นี้ ก่อนออกเกณฑ์คุมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ดอกเบี้ยห้ามเกิน 28% หลังพบไม่มีคนกำกับดูแล คิดดอกเบี้ยแพงเกินจริง คาดเริ่ม พ.ย.นี้

นางสาวดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.เตรียมที่จะออกเกณฑ์กำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถเป็นหลักประกัน หรือคาร์ฟอร์แคช เพื่อคุ้มครองดูแลผู้บริโภค โดยคาดว่าจะสามารถประกาศหลักเกณฑ์ได้ในเดือน พ.ย.นี้ โดยได้จัดทำแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (Consultation Paper) เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมและได้รับความเป็นธรรม โดยในวันที่ 28 ก.ย.-12 ต.ค.นี้ ธปท.จะเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนและผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ ในปัจจุบันธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ซึ่งคือ ธุรกิจการให้สินเชื่อโดยใช้เล่มทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถเพื่อการเกษตร รถบรรทุก หรือรถประเภทอื่นๆมาเป็นหลักประกัน โดยจะมีการทำสัญญาโอนลอยรถล่วงหน้าระหว่างผู้ขอสินเชื่อและผู้ให้สินเชื่อ โดยที่ตัวรถยังคงอยู่ที่ผู้ขอสินเชื่อ เมื่อผู้ขอสินเชื่อชำระเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยครบ ผู้ให้สินเชื่อจะคืนเล่มทะเบียนรถดังกล่าวแก่ผู้ขอสินเชื่อและยกเลิกสัญญาโอนลอยดังกล่าว มีผู้ใช้บริการประมาณ 3 ล้านราย มียอดคงค้างสินเชื่อ 200,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นประชาชนระดับฐานราก และกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายหรือผู้กำกับดูแลเป็นการเฉพาะ

โดยที่ผ่านมา ธปท.ได้รับทราบข้อร้องเรียนจากประชาชนในประเด็นการคิดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูงเกินกำหนด หรือการทำสัญญากับลูกค้าอย่างไม่เป็นธรรม มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง คิดดอกเบี้ยสูงเกินกำหนด เช่น คิดดอกเบี้ยจำนำรถยนต์สูงถึง 20-30% และคิดดอกเบี้ยในส่วนรถจักรยานยนต์สูง 25-65% ดังนั้น ธปท.จึงจะออกแนวทางกำกับดูแลเพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการไม่โดนเอาเปรียบ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม

“ตามหลักเกณฑ์ใหม่ บริษัทที่ทำธุรกิจรับจำนำทะเบียนที่ ธปท.กำกับดูแล ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อข้ามจังหวัดได้ กำหนดเพดานดอกเบี้ยที่ 28% ต่อปี รวมค่าปรับ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายต่างๆ ยกเว้นค่าทวงถามหนี้ที่คิดได้ตามจริง โดยผู้ให้บริการต้องเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์ ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมอย่างครบถ้วน ขณะที่การอนุมัติวงเงินสินเชื่อไม่กำหนดขึ้นอยู่กับมูลค่าหลักประกัน ห้ามคิดค่าธรรมเนียมหากลูกค้านำเงินมาปิดบัญชีล่วงหน้า รวมทั้งต้องคืนส่วนต่างจากการขายหลักประกันที่ได้เกินมูลค่าให้ลูกหนี้ ขณะที่กรณีผิดนัดชำระหนี้ให้คำนวณเงินต้นคงเหลือเท่านั้น”

นางสาวดารณี กล่าวว่า ผู้ประกอบการสินเชื่อจำนำทะเบียนในขณะนี้ที่อยู่ในระบบกว่า 1,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นรายย่อย มีประมาณ 100 รายเท่านั้น ที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 50 ล้านบาท และมีอีก 30 ราย ที่มีใบอนุญาตธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่แล้ว ในจำนวนนี้ 17 รายมีใบอนุญาตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ แต่ต้องเพิ่มทุนให้ได้ตามกำหนดในเวลา 1 ปี ส่วนที่เหลืออีก 13 รายจะต้องมาขอใบอนุญาตจาก ธปท.เพิ่มภายใน 60 วัน ส่วน
ผู้ประกอบการใหม่ที่ยังไม่มีใบอนุญาตต้องมาขอใบอนุญาตจาก ธปท.ก่อนดำเนินธุรกิจ หากไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ในกรณีที่มีการดำเนินธุรกิจ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58

ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยที่มีทุนจดทะเบียนไม่ถึง 50 ล้านบาท และไม่สามารถเพิ่มทุนได้ สามารถที่จะขอใบอนุญาตพิโก ไฟแนนซ์ (Pico Finance) จากกระทรวงการคลังแทนเพื่อให้สินเชื่อกับรายย่อย โดยต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อรถจักรยานยนต์ให้บริการได้เฉพาะภายในจังหวัดและกำหนดเพดานดอกเบี้ยไม่เกิน 36%.