“โลหะเงิน” นับเป็นสินทรัพย์ยอดนิยมรองจาก “ทองคำ” จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปี 2567 ราคาโลหะเงินปรับขึ้นราว 36.7% จาก 23.78 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ไปสู่จุดสูงสุดของปีที่ 32.51 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ราคาโลหะเงินในประเทศตั้งแต่ต้นปี ปรับตัวขึ้นราว 43.98% จาก 26,308 บาทต่อกิโลกรัม ไปสู่จุดสูงสุดของปีที่ 37,877 บาท/กิโลกรัม
ในช่วงเวลาเดียวกัน จะสังเกตได้ว่า 2 ปีที่ผ่านมา “ราคาทองคำ” และ “โลหะเงิน” เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันนอกจากนี้ ยังพบว่า ค่า Gold to Silver Ratio ปัจจุบันอยู่ที่ 89 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 80 เท่า ซึ่งบ่งบอกว่าโลหะเงินยังคงมีราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับราคาทองคำ
นี่เอง ทำให้ “โลหะเงิน” เริ่มเป็นที่สนใจของนักลงทุนมากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลจาก บริษัท ออสสิริส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายทองคำรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดการลงทุนโลก มีความสนใจในการลงทุนกับโลหะเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะมองหาสินทรัพย์มีค่าที่สามารถรักษามูลค่าในระยะยาว
ขณะ “โลหะเงิน” ตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะโลหะเงินมีมูลค่าในตลาดการลงทุนทั่วโลก และยังมีการใช้ในอุตสาหกรรม จึงมีดีมานด์อย่างสม่ำเสมอ
“บุญเลิศ สิริภัทรวณิช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด เปิดเผยว่า โลหะเงินสามารถให้ผลตอบแทนได้ทั้งในด้านการลงทุนรวมถึงการใช้งานในอุตสาหกรรมเครื่องประดับเงิน
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อความสนใจของนักลงทุนนั้นมีหลายประการ เช่น ความต้องการเพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ รวมถึงการใช้เพื่อการลงทุนมากขึ้น ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจโลหะเงินแทน เพราะมีราคาต่ำกว่าทั้งที่เป็นโลหะมีค่าและหายากเหมือนกัน
นอกจากนี้โลหะเงินยังมีศักยภาพในการเติบโตมากขึ้นในอนาคต หากมองในมิติของนักลงทุนรายย่อย โลหะเงินแท่งมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าทองคำ ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อเงินแท่งขนาดเล็กได้ ซึ่งมีผลให้นักลงทุนรายใหม่สนใจการลงทุนในเงินแท่งมากขึ้น
โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการปกป้องสินทรัพย์จากเงินเฟ้อ และกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก ซึ่งผลิตภัณฑ์โลหะเงินแท่งที่ออสสิริสเปิดตัวจะเริ่มต้นที่น้ำหนัก 1 บาท (15.2 กรัม) ซึ่งเป็นน้ำหนักที่คุ้นเคยสำหรับผู้ที่เคยลงทุนทองคำแต่จะมีราคาถูกกว่ามาก โดยเริ่มต้นไม่ถึง 1 พันบาท นอกจากนี้ยังมีเงินแท่งน้ำหนัก 5 บาท, 10 บาท, 100 กรัม, และ 1 กิโลกรัม ให้เลือกด้วยเช่นกัน
ความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากหลากปัจจัย ทั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นผลักดันให้นักลงทุนหันไปหาแหล่งพักเงินที่ปลอดภัย ซึ่งโลหะเงินแท่งเป็นอีกหนึ่งในสินทรัพย์ที่นักลงทุนเชื่อว่าจะช่วยป้องกันความเสี่ยงได้ดี
อีกทั้งเงินยังเป็นโลหะที่ถูกนำไปใช้ในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน เช่น แผงโซลาร์เซลล์ และรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) หรืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วความต้องการใช้โลหะเงินในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสในอนาคต
อีกปัจจัยสำคัญก็คือ การเติบโตของแพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์ ที่ช่วยเพิ่มความนิยมในการซื้อขายโลหะมีค่ามากขึ้น ทำให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนในโลหะเงินแท่งได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม สามารถซื้อขายได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์
ผู้บริหารออสสิริสยังเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทได้เปิดตัวโลหะเงินเพื่อการลงทุน โดยผลิตภัณฑ์เงินแท่งของออสสิริส มีทั้งโลหะเงินแท่งและเงินเม็ด (silver grain) ที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้ทุกกลุ่ม สำหรับโลหะเงินแท่งสามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ได้แก่
“สำหรับกลุ่มเป้าหมายจะเป็นลูกค้าที่เน้นการลงทุนระยะยาวและการสะสมมากกว่าการเก็งกำไรในระยะสั้น โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าจุดเด่นของเงินแท่งจะตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนกลุ่มนี้ที่มองถึงศักยภาพในการรักษาและเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ในอนาคต รวมถึงต้องการส่งต่อมูลค่าจากรุ่นสู่รุ่น”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณา คือ ความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งข้อมูลของ ATFX ได้สรุป ข้อดี - ข้อเสีย ของการลงทุนโลหะเงิน ไว้ดังนี้
5 ข้อดี
ข้อเสีย
ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์, ออสสิริส, atfx.com
อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และ ข่าวการลงทุน และ การเงิน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney