ยังไม่เลือกทาง!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 พ.ค.58 ปิดที่ 1,497.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.45 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 34,712 ล้านบาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน มองหุ้นไทยซึมลงออกด้านข้าง แต่ดีดขึ้นมาปิดในแดนบวกได้ โดยปัจจัยในประเทศยังเป็นเรื่องเดิมคือการติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1 ซึ่งบริษัทที่เหลือจะรายงานผลประกอบการวันที่ 15 พ.ค.เป็นวันสุดท้าย ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งสหรัฐฯและยุโรปยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ขณะที่มองว่าเม็ดเงินจากกองทุนทริกเกอร์ฟันด์อาจมีเข้ามาพยุงตลาดได้บ้าง แต่คงรอจังหวะในการเข้าซื้อมากกว่า เพราะตลาดยังไม่เลือกทางที่ชัดเจนเช่นกัน และการเข้าซื้อของกองทุนน่าจะเป็นการเลือกซื้อในหุ้นรายตัวพื้นฐานดีที่ราคาปรับตัวลงมามาก และยังมีโอกาสจะบวกกลับขึ้นมาได้เร็วกว่ากลุ่มอื่น หากตลาดกลับมามีทิศทางในเชิงบวก

ขณะที่มีการส่งสัญญาณชัดเจนจากบรรดาโบรกเกอร์สำนักต่างๆที่จะปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลง หลังเศรษฐกิจโตช้ากว่าที่คาดและผลงานบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1 ออกมาไม่น่าประทับใจนักวิเคราะห์มากนัก แต่ ดร.เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ ประเมินว่า กำไรบริษัทจดทะเบียน ไตรมาส 1 โดยรวมจะสูงกว่าไตรมาส 1 ปี 57 ที่มีกำไรสุทธิ 2.02 แสนล้านบาท ได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้บริษัทขนส่งได้ผลดี ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตดี ส่งผลให้ภาคบริการมีรายได้ดีขึ้น และส่งออกไปอเมริกาและยุโรปดีขึ้น โดยล่าสุดบริษัททั้งใน SET และ mai แจ้งงบการเงินมาแล้ว 306 แห่ง คิดเป็น 77% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) มีกำไรสุทธิ 1.99 แสนล้านบาท

คาดว่ากำไรไตรมาส 2 และ 3 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นหากราคาน้ำมันไม่ปรับลงไปอยู่ที่ระดับ 40 เหรียญต่อบาร์เรล เหมือนในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา และไม่มีปัจจัยลบอื่นๆเข้ามากระทบ เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น โดยเชื่อว่าหากราคาน้ำมันไม่ปรับตัวลงไปอยู่ที่ระดับ 40 เหรียญอีก กำไร บจ. ไตรมาส 1 ปีนี้ถือเป็นจุดต่ำแล้ว

ส่วนทิศทางลงทุนของต่างชาติจากนี้ไป มีแนวโน้มที่จะกลับเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทย เพราะปัจจุบันต่างชาติถือครองหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 31.32% ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ P/E ฟอร์เวิร์ด ได้ปรับลงเหลือ 15 เท่า แต่แม้การถือครองหุ้นไทยของต่างชาติจะลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี แต่เม็ดเงินการถือครองก็ถือว่ายังปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 270% นับจากปี 47!!

อินเด็กซ์ 51