“หมู-ไก่” ต้นปีแพงขึ้น! รับแรงซื้อช่วงตรุษจีน โบรกฯ ชี้ CPF ได้ประโยชน์ คาดกำไรปี 68 พุ่ง 21%

ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเนื้อสัตว์ในประเทศ หลังราคาเนื้อหมูในช่วงปลายปี 2567 อยู่ในระดับสูง ขณะที่ราคาเนื้อไก่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ซึ่งนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ระบุว่า ราคาเนื้อสัตว์มีแนวโน้มที่จะยืนอยู่ในระดับสูงช่วงต้นปี 2568 ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากเทศกาลตรุษจีน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังควรจับตาความผันผวนของราคาเนื้อสัตว์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลต่อการประเมินมูลค่าหุ้นในกลุ่มนี้ แต่ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง CPF ยังคงเป็นหุ้นที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเดือนธันวาคมโดยราคาไก่กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน อยู่ที่ 39 บาท/กก. ถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม สำหรับราคาเฉลี่ยทั้งไตรมาสอยู่ที่ 38.2 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน แต่ลดลง 11% จากไตรมาสก่อน

ส่วนราคาหมูเดือนธันวาคมอยู่ที่ 73 บาท/กก. เท่ากับเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน รวมทั้งไตรมาสเฉลี่ยอยู่ที่ 72.3 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน

สำหรับราคาเนื้อสัตว์ในต่างประเทศ เวียดนามเดือนพฤศจิกายน 2567 อ่อนตัวลงหลุดระดับ 60,000 ดอง/กก. แต่เดือนธันวาคม 2567 ราคาเบื้องต้นกลับมาปรับตัวขึ้นได้อีกครั้งแล้ว ส่วนราคาหมูที่จีนราคายังคงเห็นการอ่อนตัวลงอยู่ แต่ยังรักษาระดับที่สูงกว่าต้นทุนได้

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเดือนมกราคม 2568 คาดว่ายังคงยืนในระดับสูงได้ โดยเฉพาะความต้องการที่จะเข้ามาจากเทศกาลตรุษจีนในช่วงปลายเดือน

ขณะที่ปัจจัยบวกสำคัญอีกประการคือแนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 4/67 สำหรับผู้ประกอบการหลักทั้ง CPF และ GFPT ที่คาดว่ายังคงเห็นการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนได้หลังราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งหมูและไก่

แต่ราคาเนื้อสัตว์มีความผันผวนค่อนข้างเร็ว จึงยังคงน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเนื้อสัตว์ไว้ที่ “เท่าตลาด” และเลือก CPF เป็น Top Picks ของกลุ่ม

ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สำหรับหุ้น CPF แนวโน้มปี 2568 ผู้บริหารคาดว่าต้นทุนวัตถุดิบสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยงจะลดลงต่อเนื่องถึงกลางปี หนุนจากสงครามที่คาดจะสิ้นสุดลง ซึ่งคาดจะช่วยเพิ่มการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และส่งผลให้ต้นทุนในจีนและเวียดนามลดลงมาก ควบคู่ไปกับต้นทุนขนส่งที่มีแนวโน้มลดลง ผู้บริหารเห็นผลกระทบที่จำกัดจากสงครามการค้าต่อการส่งออกไปยังสหรัฐฯ

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปยังการเพิ่มประสิทธิภาพของฟาร์มเลี้ยงปศุสัตว์ ลดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนฟาร์มเลี้ยงและปรับกลยุทธ์การขายและการกำหนดราคาให้สอดคล้องกับอุปสงค์ในภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ ผู้บริหารจึงเชื่อว่าการเติบโตจะยังแข็งแกร่งในครึ่งแรกปี 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดยอดขายปี 2568 จะเติบโตขึ้น 5-7% จากปีก่อน

เรามีความเห็นเหมือนกับผู้บริหารที่คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 จะเติบโตขึ้นแข็งแกร่งต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเชื่อว่ากำไรสุทธิของ CPF จะเติบโตขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตของธุรกิจหมูในตลาดหลักรวมทั้งประเทศไทย เวียดนาม และจีน และประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้นในอินเดีย มาเลเซียและสหรัฐฯ

สำหรับเป้าการเติบโตของผู้บริหารในปี 2568 สูงกว่าของเราที่คาดอยู่ที่ 3% แต่เรามองว่าเป็นเรื่องที่ดีจากความผันผวนของราคาปศุสัตว์ที่ลดลงและต้นทุนที่คาดจะลดลงมากกว่าคาด เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 7.8% ปี 2568 ที่ 21% และปี 2569 ที่ 15% แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 30.0 บาท

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney