โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แจ้งว่า ตามที่บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (JKN) ยังไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยล่าช้าเกินกว่า 6 เดือน นับแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ส่งผลให้ JKN เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน
เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังกล่าวข้างต้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการดังนี้
1. ประกาศว่า JKN มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน
ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) และยังคงเครื่องหมาย **SP (Suspension)** ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ต่อไป จนกว่า JKN จะดำเนินการแก้ไขให้เหตุเพิกถอนหมดไป และดำเนินการให้หลักทรัพย์กลับมาซื้อขายได้ในระยะเวลาที่กำหนด
2. กำหนดระยะเวลาให้ JKN แก้ไขเหตุเพิกถอน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้ระยะเวลา JKN ในการแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 หากครบกำหนดเวลาแล้วบริษัทยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท ได้แจ้งขอเลื่อนกำหนดส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการไตรมาสที่ 1 ปี 2567 จากวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เป็นภายหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางในคดีฟื้นฟูกิจการของบริษัท (ลูกหนี้) มีคำสั่งแต่งตั้งผู้ทำแผนของบริษัทแล้ว เพื่อให้การสอบทานข้อมูลของผู้สอบบัญชีอยู่ภายใต้การจัดการของผู้ทำแผนของบริษัท รวมถึงให้การจัดทำงบการเงินมีความโปร่งใส ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย รายละเอียดตามหนังสือที่อ้างถึงในข้อ 1 นั้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งแต่งตั้งบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ทำแผนตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 และฉบับแก้ไข รายละเอียดตามหนังสือที่อ้างถึงในข้อ 2 โดยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีประกาศคำสั่งแต่งตั้งบริษัทเป็นผู้ทำแผนในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยบริษัทจะได้ดำเนินการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีงบการเงินประจำปี 2567 ตามอำนาจหน้าที่ทางกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ จากการที่บริษัทได้ดำเนินการแต่งตั้งบริษัท สำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด ผู้สอบบัญชีอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นผู้สอบบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) เกี่ยวกับเจ้าหนี้การค้าของบริษัทฯ โดยเฉพาะการซื้อลิขสิทธิ์ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 รวมถึงการชำระราคาค่าลิขสิทธิ์ตามรายการที่มีการซื้อในช่วงระยะเวลาดังกล่าวตามที่บริษัทฯ บันทึกรายการบัญชี และมีความจำเป็นต้องขยายเวลาการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากข้อมูลและเอกสารที่จะต้องตรวจสอบมีปริมาณมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ผู้สอบบัญชีอิสระมีความจำเป็นต้องขยายเวลาในการตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมทุกประเด็นและเป็นไปตามมาตรฐานการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำการตรวจสอบและจัดทำรายงานการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษให้แล้วเสร็จได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 รายละเอียดตามหนังสือที่อ้างถึงในข้อ 3
ดังนั้น บริษัทจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนการนำส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการไตรมาส 1 ปี 2567 ออกไปอีกคราว ซึ่งส่งผลต่อการจัดทำงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ปี 2567 โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถนำส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการไตรมาส 1 ปี 2567 ได้ภายในเดือนมกราคม 2568 และสามารถนำส่งงบการเงินประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2567 รวมถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ตามลำดับต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าใดๆ เพิ่มเติม บริษัทจะเรียนแจ้งให้ท่านทราบผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่