หลังจากที่ กระทรวงการคลัง ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ผ่านโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home และโครงการสินเชื่อ Happy Life นั้น ล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโครงการ "ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง" วงเงินรวม 55,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ต่างมองว่ามาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมผ่านโครงการดังกล่าว จะหนุนให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น และส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง-ล่าง รวมถึงหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กระทรวงการคลัง มีแนวคิดออก 2 โครงการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ คือ การจัดสินเชื่อ "ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง" บ้านและคอนโด ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 55,000 ล้านบาท ซึ่งจะชงเข้า ครม. เร็วๆ นี้
โดยฝ่ายวิจัยฯ ไปศึกษาข้อมูลในอดีตของการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ตั้งแต่ช่วง ไตรมาส 1/66 ถึงไตรมาส 2/67 กิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ เติบโตเพียง 0.5% (คิดเป็นสัดส่วนราว 4.3% ของจีดีพี) ซึ่งถือว่าโตต่ำกว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยโดยเฉลี่ยเล็กน้อย
ดังนั้น หากมาตรการดังกล่าวออกมาจริง คาดเป็นปรงพยุงให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยทยอยเติบโต และเข้าใกล้เป้าหมายที่กระทรวงการคลังคาดว่าจีดีพีปีนี้ จะโต 3% จากปีก่อน ส่วนผลบวกต่อราคาหุ้นอสังหาริมทรัพย์อาจมีไม่มาก เนื่องจาก 2 ข้อเรียกร้องหลักที่ผู้ประกอบการนำเสนอต่อรัฐบาล ได้แก่ การผ่อนคลายเกณฑ์เรื่อง LTV และ การเพิ่มสิทธิ์ให้ต่างชาติถือครองอสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้น ยังไม่ได้รับการตอบสนอง
อย่างไรก็ดี มองว่าเศรษฐกิจไทยดูดีขึ้น หลังรัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม หนุนมีโอกาสหนุนให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากกว่าออกในช่วงสั้น ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว คือ หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ซึ่งบริษัทที่ฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบโดยให้คำแนะนำ Outperform คือ AP, SPALI, SC และ SIRI เป็นต้น
ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีมุมมองไปในทางเดียวกันว่า มาตรการที่กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม. เพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม “ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง” วงเงินรวม 5.5 หมื่นล้านบาท หลังมาตรการก่อนหน้าประสบความสำเร็จและเสียงตอบรับดีนั้น
ประเมินว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ วงเงิน 5.5 หมื่นล้านบาท ดังกล่าว จะเป็นผลบวกต่อหุ้นเป็นผู้ประกอบการทำบ้านระดับกลาง-ล่าง และหุ้นขายวัสดุก่อสร้าง
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home สามารถปล่อยสินเชื่อได้ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่โครงการสินเชื่อ Happy Life สามารถปล่อยสินเชื่อได้ 1.8 หมื่นล้านบาท
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้