กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นที่เรียบร้อยวันนี้ (7 ต.ค. 67) โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “VAYU1” เปิดตลาดที่ราคา 10.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +1% จากราคาเสนอขายที่ 10 บาทต่อหน่วย
โดยกระทรวงการคลังมั่นใจว่ากองทุนวายุภักษ์จะเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนและเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หลังจากตลาดทุนไทยเผชิญกับความผันผวน ซึ่งเชื่อว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นจากทั้งในและต่างประเทศ
ด้านผู้จัดการกองทุนเผยว่ากองทุนฯ มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เน้นความยั่งยืนและการเติบโตระยะยาว โดยคาดว่าจะจ่ายปันผลครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ระดับ 3-9%
พิชัย ชุนหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับการตอบรับวันนี้ถือเป็นที่น่าพอใจ โดยกองทุนวายุภักษ์เป็นการลงทุนที่มองเป้าหมายผลตอบแทนระยะยาว คาดว่าจะทำให้บรรยากาศการลงทุนหลังจากนี้ดีขึ้น และจะเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศได้ หลังจากสถานการณ์ตลาดทุนไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวน
และการนำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนแก่ผู้ลงทุนที่สนใจ โดยเชื่อมั่นว่ากองทุนฯ จะมีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนฯ
ทั้งนี้ กองทุนวายุภักษ์มีนโยบายคัดสรรการลงทุนในบริษัทที่ดี และอยู่ในเทรนด์ที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญ ทั้งบริษัทที่มีความยั่งยืนและบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเชื่อว่าผู้จัดการกองทุนจะมีการดูแลอย่างดี ทำให้คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากทั้งนักลงทุนในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศเข้ามามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มองว่านักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญกับ 2 เรื่อง ประกอบด้วยความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศ และแนวโน้มทางเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก โดยมองว่าภูมิภาคเอเชียยังเป็นเป้าหมายที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามอง
ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ทำให้เริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ปัจจุบันพบว่าปัญหาที่เคยเกิดขึ้นนั้นเริ่มเบาบางลงไป แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้มงวดยิ่งขึ้นกับผู้ที่มีการลงทุนไม่เหมาะสม และเชื่อว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมต่อไป
พิชัย กล่าวอีกว่า นักลงทุนต่างติดตามสถานการณ์ดอกเบี้ยว่าจะเป็นอย่างไร แต่กลไกโดยทั่วไปนั้น หากดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง นักลงทุนมักพิจารณาตราสารหนี้ (Fixed income) แต่ถ้าดอกเบี้ยลดลงนักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มองว่าหากทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาลง นักลงทุนจะมีโอกาสปรับพอร์ตจากตราสารหนี้ และหันมาหาส่วนที่มีการเติบโตมากขึ้น อย่างการลงทุนในหุ้น ทำให้มองว่าเม็ดเงินจะไหลเข้ามามากขึ้น
นอกจากนี้ มีแผนเตรียมเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาเพิ่มกรอบเงินเฟ้อ จากปัจจุบันเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด และมีโอกาสต่ำกว่ากรอบล่าง โดยต้องคุยกันว่ามีโอกาสที่จะปรับกรอบขึ้นหรือไม่ เพื่อเร่งเครื่องภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ
ด้าน ชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวว่า การตอบรับการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนฯ ที่ดีนั้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการ และผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่แข็งแกร่งในระยะยาว
สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. กองทุนฯ ได้เริ่มนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ภายใต้กรอบนโยบายการลงทุนของกองทุนฯ แล้ว โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
อย่างไรก็ตาม จะมีการสรุปผลการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง สิ้นปี 2567 นี้ และคาดว่าจะจ่ายปันผลงวดแรกได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ระดับ 3-9%
ด้าน ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวว่า ด้วยฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของกองทุนฯ และการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพของบริษัทจัดการทั้งสองแห่ง กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะนำเงินจากการระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ในครั้งนี้ ไปลงทุนตามวัตถุประสงค์และนโยบายที่กำหนดไว้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทุกวันทำการ โดยราคาหน่วยลงทุนในตลาดรองจะเป็นไปตามกลไกตลาด
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้