หุ้นไทยขึ้น 100 จุด นับจาก แพทองธาร นั่งนายกฯ ลุ้นเงินวายุภักษ์ดันทะลุ 1,400 จุด

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ 5 กันยายน 2567 ณ เวลา 11.08 น. ดัชนีปรับตัวขึ้น 22.92 จุด หรือ +1.68% มาอยู่ที่ 1,388.41 จุด โดยระหว่างวันปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 1,390.58 จุด

ทั้งนี้ นับจาก "แพทองธาร ชินวัตร" รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ดัชนีขึ้นจากระดับ 1,289.84 จุด หรือปรับตัวขึ้นมากกว่า 100 จุด

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเดินหน้าปรับขึ้นต่อ พร้อมติดตามการเดินหน้ากองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยตุลาคมนี้ คาดเม็ดเงินทะลักไหลเข้า 1.5 แสนล้านบาท หนุนตลาดหุ้นไทยในช่วงต่อจากนี้ด้วย

ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ความเห็นกับ “Thairath Money” ว่า วันนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น Outperform หลังบรรยากาศการลงทุนปรับตัวดีขึ้นในภาพรวม ประกอบกับการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน และไทม์ไลน์ของการเสนอขายกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง (VAYU1) มีความชัดเจน

โดยกองทุนรวมวายุภักษ์จะเริ่มเสนอขายในช่วงวันที่ 16-20 กันยายนนี้ โดยคาดว่าจะเห็นเม็ดเงิน 1-1.5 แสนล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังคาดหวัง เริ่มไหลเข้าตลาดหุ้นเดือนตุลาคม ดังนั้น จึงมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาดักกองทุนวายุภักษ์ในช่วงนี้ด้วย

ทั้งนี้ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยให้แนวต้านถัดไปที่ 1,400 จุด โดยแนะนำนักลงทุนให้เข้าลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปันผลดี ราคายังไม่ปรับตัวขึ้นมามาก และเป็นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์

ด้าน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เมื่อวานนี้ (4 ก.ย. 2567) มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “แพทองธาร 1” ลำดับถัดไปจะเป็นการถวายสัตย์ปฏิญาณ และสุดท้ายจะมีการเรียกประชุม ครม.ใหม่นัดพิเศษ เพื่อขอมตินโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา คาดว่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 10-12 ก.ย. 2567 ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้าทำงานช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้

ขณะที่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2568 วาระที่ 2-3 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 5 ก.ย. 2567 พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าโหวตผ่าน โดยคาดการณ์เสียงสนับสนุนไม่น่าจะต่ำกว่า 320 เสียง (ตามคะแนนเสียงพรรคร่วมรัฐบาล)

ภาวะดังกล่าวหนุนให้สุญญากาศทางการเมืองหายไป อีกทั้งรัฐบาลยังตุนงบประมาณไว้เต็มมือราว 3.5 แสนล้านบาท พร้อมหนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะถัดไปเดินหน้าต่อ โดยนโยบายที่คาดว่าจะออกมาและเกี่ยวข้องกับตลาดทุนโดยตรง คือ

1. คาดงบประมาณฯ ปี 2567-2568 ผ่านรัฐสภาฉลุยภายในเดือน ก.ย. 2567 มองบวกต่อหุ้น CK, STEC, TASCO, BBL,SCC,SCCC

2. การปรับเปลี่ยนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต โดยเสนอปรับแจกเงินสดแก่กลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการก่อน 10,000 บาท/ราย ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ MTC, BAM, TIDLOR, TU, TFG, GFPT, CPALL, CPAXT, BJC

3. การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยการขยายความจุสนามบินสุวรรณภูมิ และการสร้าง Entertainment Complex ครบวงจร ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ AWC, CENTEL, MINT, ERW, CPN, AOT

4. เดินหน้ากองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง (VAYU1) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทย 1 ต.ค. 2567 คาดเม็ดเงินทะลักเข้าตลาดหุ้นไทย 1.5 แสนล้านบาท เข้ามาช่วยปกป้องและพยุงตลาดหุ้นไทยในช่วงต่อจากนี้ กลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์ โดยคัดกรองจากหุ้นที่วายุภักษ์ถือเยอะ และมี ESG RATING “AAA” ประโยชน์จาก 2 ประเด็น คือ PTT, BCP, KTB, ADVANC, SCC, KBANK, CRC, CPF, SCGP, OR

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเห็นการอัดฉีดเงินเข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจและตลาดหุ้น น่าจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย หรือ SET Index เดินหน้าปรับขึ้นไปต่อ

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney