ก.ล.ต. รับตรวจสอบ กรณีรายงานซื้อขายหุ้นผิด มีเจตนาหรือไม่

จากกรณีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของบริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI มีการทำรายการซื้อขายหุ้น และรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการแบบ 246-2 จนทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องขึ้นเครื่องหมาย H ในการซื้อขายช่วงเช้าของวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง โดยราคาหุ้นในช่วงบ่ายราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจนชนซิลลิ่ง

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยกับ Thairath Money ว่า ในเรื่องความผิดการรายงานแจ้งการซื้อขายหุ้นนั้น สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ติดตามในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว และโดยหลักในการพิจารณาคือต้องดูว่ามีเจตนาหรือไม่

“โดยหลักปกติ มีเรื่องเกิดขึ้นก็ต้องดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น เจตนาหรือไม่ โดยทั่วไป หากมีเหตุอันสงสัยต้องดู ซึ่งการแจ้งรายการผ่าน 246-2 เป็นการแจ้งเข้ามาผ่านระบบของสำนักงาน ก.ล.ต.”

อย่างไรก็ตาม กรณีทั่วไป หากมีการรายงานข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือผิดปกติในการแจ้งข้อมูล อาจจะมีความเสี่ยงที่ผิดกฎตามมาตรา 240 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ เรื่องการบอกกล่าวหรือเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือที่ทำให้สำคัญผิด อาจเป็นข้อมูลเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงานของบริษัท ราคาการซื้อขายหลักทรัพย์ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์นั้น

มาตรา 241 การวิเคราะห์หรือคาดการณ์ที่ใช้ข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนข้อมูล ซึ่งรู้ว่าข้อมูลนั้นเป็นเท็จหรือไม่ครบถ้วนแต่ยังเลือกใช้ข้อมูลนั้น ละเลยพิจารณาความถูกต้องของข้อมูล หรือบิดเบือนข้อมูลที่นำมาใช้ ซึ่งทั้ง 2 กรณีได้ส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์และส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน โดยความผิดในมาตรา 240 และ 241 นั้น มีบทลงโทษตามมาตรา 296 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนเป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 ล้านบาทถึง 5 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 296/2 ในส่วนของโทษปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 เท่าของผลประโยชน์