PCE จับจังหวะตลาดฟื้น เคาะช่วงไอพีโอ 2.08 - 2.28 บาท เตรียมเข้าเทรดกลาง ก.ย. นี้

ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้แข็งแกร่งมาก 8 วันทำการที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 จุด นับเป็นจังหวะ “ฟ้าเปิด” ทำให้ธุรกรรมของตลาดหุ้นกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในหุ้นไอพีโอที่เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ก็เริ่มกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง โดยล่าสุด PCE หรือ เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ ผู้ประกอบการด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ ประกาศช่วงราคาไอพีโออยู่ที่ 2.08 - 2.28 บาท และพร้อมที่จะเข้าเทรดในช่วงกลางเดือน ก.ย. นี้

พายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการสายงานวานิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ร่วมของบริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดช่วงราคาจองซื้อหุ้นไอพีโอ PCE อยู่ที่ 2.08 - 2.28 บาท ซึ่งคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงกลางเดือน ก.ย. นี้ โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และเป็นการเข้าไอพีโอในจังหวะที่สำคัญในช่วงตลาดหุ้นพลิกเป็นขาขึ้น

“ไทม์มิ่งของการเข้าไอพีโอของ PCE เป็นจังหวะที่ดีมาก ซึ่งเป็นจังหวะของตลาดหุ้นไทยที่ฟื้นตัวประมาณ 60 จุด และเรามองว่าการเข้าระดมทุนในจังหวะนี้ถือว่าเหมาะสมและช่วยสร้างความคึกคักให้กับตลาดได้”

ทั้งนี้ PCE เสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 750 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หรือราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท โดยจะมีการเสนอขายหุ้นไอพีโอในราคา 2.08 - 2.28 บาท ซึ่งจะเสนอขายในวันที่ 30 ส.ค. และ 2-3 ก.ย. คาดว่าจะเคาะราคาเสนอขายสุดท้ายในวันที่ 2 ก.ย. นี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ โดยวัตถุประสงค์การเสนอขาย IPO เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อขยายกำลังการผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มPCE

ประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE เปิดเผยว่า PCE ดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มมานานมากกว่า 30 ปี โดยภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในช่วง 3 ปีนับจากนี้ (2567-2569) มีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากกำลังซื้อภายในประเทศ และความต้องการใช้ในต่างประเทศ

โดยมาจากการบริโภคอุปโภค ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มพลังงานทดแทนที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการใช้โอเลโอเคมิคอลเพื่อเป็นส่วนประกอบในสินค้า เช่น เครื่องสำอาง สบู่ ครีมบำรุงผิว ซึ่งการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์จะช่วยยกระดับให้บริษัทมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment