ดันไทยเป็น “ศูนย์กลางการเงิน”ภูมิภาค   เทียบชั้นดูไบ ดึงเม็ดเงินต่างชาติ  หวังกระชากเศรษฐกิจโต

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ดันไทยเป็น “ศูนย์กลางการเงิน”ภูมิภาค เทียบชั้นดูไบ ดึงเม็ดเงินต่างชาติ หวังกระชากเศรษฐกิจโต

Date Time: 28 ส.ค. 2567 13:32 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • กระทรวงการคลัง ประกาศดึงการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาในไทยอีกครั้ง ผ่านมาตรการดันไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค เทียบชั้นดูไบและสิงคโปร์ รวมถึงการผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ทั้งนี้ เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน Thailand Focus 2024 ว่า การดึงดูดจะต้องใช้มาตรการทางภาษีควบคู่ไปกับมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี เพื่อสร้างจุดเด่นให้ไทยอยู่ในสายตาของการลงทุน และในขณะเดียวกัน แม้การปั้นเศรษฐกิจให้เติบโตจะเป็นผลดีกับตลาดหุ้นในระยะยาว แต่ในระยะสั้นก็คาดหวังให้กองทุนวายุภักษ์และกองทุนรวม ThaiESG ที่จะช่วยขับเคลื่อน

กระทรวงการคลัง ประกาศดึงการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาในไทยอีกครั้ง ผ่านมาตรการดันไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค เทียบชั้นดูไบและสิงคโปร์ รวมถึงการผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ทั้งนี้ เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน Thailand Focus 2024 ว่า การดึงดูดจะต้องใช้มาตรการทางภาษีควบคู่ไปกับมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี เพื่อสร้างจุดเด่นให้ไทยอยู่ในสายตาของการลงทุน และในขณะเดียวกัน แม้การปั้นเศรษฐกิจให้เติบโตจะเป็นผลดีกับตลาดหุ้นในระยะยาว แต่ในระยะสั้นก็คาดหวังให้กองทุนวายุภักษ์และกองทุนรวม ThaiESG ที่จะช่วยขับเคลื่อน

เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดึงเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย สร้างเม็ดเงินให้หมุนอยู่ในเศรษฐกิจไทย โดยนโยบายของรัฐบาล ทั้งการดันไทยให้เป็นไฟแนนเชียล ฮับ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น อย่างการแจกเงินดิจิทัล

“ตลาดหุ้นไทยจะเติบโตได้ในระยะยาว ต้องมาจากแก่นของการเติบโตในประเทศ เอกชนเติบโตได้ เศรษฐกิจหมุนเวียนดี ซึ่งในมุมของรัฐบาลเรามีเป้าหมายที่จะดึงเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น”

มุมมองของภาครัฐ เรามองว่า แม้เศรษฐกิจจะเติบโตได้ดี แต่อาศัยเม็ดเงินในประเทศอาจมีจำกัด ดังนั้นการดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดี

โดยนโยบายของภาครัฐที่จะขับเคลื่อน ทั้งการดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค การจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการขับเคลื่อนแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต

ซึ่งในสิ่งที่รัฐบาลต้องพิจารณา คือ การทำให้ไทยน่าดึงดูดการลงทุนมากขึ้น ทั้งในด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น มาตรการสนับสนุนทางภาษีที่มากขึ้น รวมถึงภาษีนิติบุคคลในปัจจุบันมีความเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงการผลักดันในมาตรการที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางภาษี ทั้งสนับสนุนให้ผู้ที่มีความสามารถจากต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศได้ง่ายขึ้น รวมถึงการปรับสภาพแวดล้อมในด้านการทำธุรกิจที่จะตอบโจทย์กับการลงทุน

โดยการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นไฟแนนเชียล ฮับ เราต้องทำให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ หรือ ดูไบ ให้เราสามารถแข่งขันได้ อย่างในสิงคโปร์ที่มีการเก็บภาษีนิติบุคคลที่ 15% ซึ่งเป็นโจทย์ที่เราต้องดูในเรื่องนี้

ส่วนการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้รับฟังเสียงของประชาชน และผู้เชี่ยวชาญให้มุมมองต่อการแจกเงินดิจิทัล ซึ่งเราได้นำเสียงเหล่านั้นมาปรับปรุงให้ตรงความต้องการมากขึ้น และน่าจะมีข่าวดีและมีการแจกเงินได้รวดเร็วกว่าที่คาด โจทย์สำคัญของการแจกเงินดิจิทัล คือ เราจะไม่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจแค่ระยะสั้น แต่ต้องสร้างประโยชน์กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาวด้วย และอยากให้ติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตามในด้านการพัฒนาตลาดทุน ต้องยอมรับว่า การพัฒนาที่แท้จริงเราต้องเริ่มจากแก่นของเศรษฐกิจ และการเติบโตของภาคเอกชนที่จะขับเคลื่อนได้ในระยะยาว แต่เราไม่ได้รอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเท่านั้น ในระยะสั้นเราต้องใช้มาตรการเข้าไปช่วย ทั้งการปรับปรุงรูปแบบกองทุนรวม ThaiESG และการผลักดันกองทุนวายุภักษ์ที่จะออกมาในสิ้นปีนี้

---


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ