แนวโน้มการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยที่ 8% ต่อปี ขณะเดียวกันประเมินว่าความต้องการไฟฟ้าทั่วโลกจะสูงถึง 1 เทราวัตต์ชั่วโมง (TWh) ในปี 2573 ซึ่งมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม AI
ทั้งนี้ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BPP ผู้ผลิตไฟฟ้าระดับสากล เร่งหาโอกาสขยายธุรกิจ โดยวางงบลงทุน 500-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 2.3 หมื่นล้านบาท) ศึกษาการเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายกำลังการผลิต โดยโฟกัสไปที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดในสหรัฐอเมริกาและจีน
อิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BPP เปิดเผยว่า บริษัทฯ เร่งหาโอกาสในการขยายธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะประเทศในเอเชียแปซิฟิก และสหรัฐฯ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทต่อไป
โดยคาดการณ์ว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกจะเติบโตเฉลี่ยที่ 8% ต่อปี ขณะที่เอเชียแปซิฟิกที่เติบโตโดดเด่น 11% สูงกว่ายุโรปและสหรัฐฯ ทั้งนี้ประเมินว่าความต้องการไฟฟ้าทั่วโลกจะสูงถึง 1 เทราวัตต์ชั่วโมง (TWh) ในปี 2573 จากการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม AI
ขณะเดียวกัน บริษัทวางกลยุทธ์ในการเติบโตผ่านการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ผ่านโครงการที่มีประสิทธิภาพ และให้ผลตอบแทนที่ดี โดยมุ่งเน้นไปที่โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่มีการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว และสามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทกลับมาได้ทันที ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาและทำ Due Diligence ในหลายๆ โครงการเพื่อเข้าซื้อกิจการต่อไป
พร้อมกันนี้ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน บริษัทมีการลดสัดส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ลง พร้อมมุ่งเน้นการขยายกำลังการผลิตพลังงานสะอาดในสหรัฐฯ เป็นหลัก ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจากแก๊ส รวมถึงธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานด้วย เพื่อให้สามารถรองรับกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะแตะ 2,462 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) หรือเติบโตกว่า 2 เท่า ในปี 2593
นอกจากนี้บริษัทยังเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจพลังงานสะอาดในประเทศจีนเพิ่มเติม จากในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตที่ดี โดยล่าสุดได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ Gemeng International Energy ในการร่วมพัฒนาธุรกิจพลังงานในรูปแบบใหม่ ธุรกิจระบบจัดเก็บพลังงาน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด เพื่อขยายโอกาสการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน
ผู้บริหาร BPP กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปี 2567 คาดว่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าในจีนได้ตามแผน ขณะที่สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ซึ่งสถิติในอดีตมักจะทำผลงานได้ดีที่สุดในไตรมาส 3 ของปี
อย่างไรก็ตาม บริษัทวางงบลงทุนสำหรับปี 2567-2569 ไว้ราว 500-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท) เพื่อขยายกำลังการผลิตและลงทุนด้านเทคโนโลยีการลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายในระยะยาวของบริษัทที่ต้องการมุ่งเน้นสู่พลังงานสะอาด และทำให้มีโครงการที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตอย่างมั่นคง.
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้