4 หุ้น “กลุ่มซีพี” ฟันกำไร 1.34 หมื่นล้าน ลุ้น CPALL-CPAXT โตต่อ จากรัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

สิ้นสุดแล้ว สำหรับการรายงานงบการเงินไตรมาส 2/67 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ “Thairath Money” รวบรวมผลประกอบการ และทิศทางในอนาคตของ 4 หุ้นกลุ่มซีพี ของเจ้าสัว “ธนินท์ เจียรวนนท์” โดยพบว่าไตรมาส 2/67 ทำกำไรสุทธิรวมกันกว่า 1.34 หมื่นล้านบาท

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ยังมองอนาคตสดใส นำโดย CPALL ที่คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล ด้าน CPF คาดได้อานิสงส์จากราคาหมูฟื้น ขณะที่ CPAXT คาดผลงานดีต่อเนื่อง จากยอดขายสินค้าจำเป็นยังโตดี ส่วน TRUE แม้จะยังมีผลขาดทุนสุทธิ แต่ภาพรวมปีนี้ก็คาดพลิกมีกำไรปกติได้

หุ้น CPALL กำไรพุ่ง 40% ลุ้นรัฐอัดฉีดเศรษฐกิจ-กระตุ้นกำลังซื้อดันผลงานโตอีก

เริ่มกันที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPALL เจ้าของร้านสะดวกซื้อ”7-Eleven” ทำกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 กว่า 6,239 ล้านบาท โต 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ ประกอบกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค มีต้นทุนทางการเงินลดลง จากการบริหารจัดการหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CPALL รายงานกำไรหลักเป็นไปตามที่คาด 6.1 พันล้านบาท จากการดำเนินงานของ 7-Eleven ที่แข็งแกร่ง ขณะที่ยอดขายสาขาเดิมไตรมาส 3/67 มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 2-3% จึงคาดว่า CPALL จะรายงานการเติบโตของกำไรในไตรมาส 3/67 เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ อย่างไรก็ตาม กำไรจะลดลงจากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยฤดูกาล ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 4/67

อย่างไรก็ตาม ชอบ CPALL มากที่สุดในกลุ่มค้าปลีก นอกเหนือจากมูลค่าหุ้นที่อยู่ในระดับไม่แพง การเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2567 ของหุ้น และผลประโยชน์ที่เป็นไปได้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะกระเป๋าเงินดิจิทัลมูลค่า 10,000 บาท จะส่งผลให้ CPALL ปรับตัวโดดเด่นกว่าในกลุ่มค้าปลีก

หุ้น CPF พลิกกำไรเกือบ 7 พันล้าน หวังราคาหมูฟื้นต่อ

ต่อมาคือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPF ผู้นำธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจเลี้ยงสัตว์-แปรรูป และธุรกิจอาหารในไทย รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ที่ 6,925 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 973% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุนสุทธิ 793 ล้านบาท  หลังต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ลดลง และราคาหมูในภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามและกัมพูชา

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทมีผลประกอบการไตรมาส 2/67 ที่ดีกว่าเราและตลาดคาด และผู้บริหารให้มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรกของปี 2567 โดยเฉพาะในไตรมาส 2/67 ที่คาดว่าจะดีขึ้นจากต้นทุนลดลง ขณะที่ราคาหมูในเวียดนามและจีน ยังดีต่อเนื่องจาก จึงนำไปสู่ความมั่นใจในการปรับประมาณการปี 2567 เพิ่มขึ้น 59% อยู่ที่ 15,675 ล้านบาท และปี 2568 เพิ่มขึ้น 43% อยู่ที่ 16,303 ล้านบาท

เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ที่ 7,100 ล้านบาท จากเข้าสู่ช่วง High season ของการส่งออก พร้อมมองว่าไก่แปรรูปปรุงสุกที่มีอัตรากำไรดี จะช่วยหนุนกำไรขั้นต้นได้ พร้อมกันนี้ มองว่าราคาหมูเวียดนามและราคาหมูจีนดีต่อเนื่อง ปัจจุบันราคาหมูจีนอยู่ที่ 20.7 หยวน/กก. สูงที่สุดในรอบ 20 เดือน นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2565 ด้านต้นทุนลดลงมีแนวโน้ม โดยเฉพาะราคากากถั่วเหลืองลดลงชดเชยกับราคาข้าวโพดที่เริ่มปรับตัวขึ้น

หุ้น CPAXT ยอดขายสุดปัง ดันกำไรโต 5 ไตรมาสติด 

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPAXT ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งรายใหญ่ เจ้าของ Makro และ Lotus’s ไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิ 2,176 ล้านบาท โต 43.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการยอดขายที่เติบโตแตะ 121,374 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14.1% รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการปรับโครงสร้างเงินกู้ยืม

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นว่า แนวโน้มในช่วงครึ่งหลังปี 2567 คาดกำไรเติบโตได้ อิงตัวเลขการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 3/67 ยังเติบโตได้ต่อทั้ง Makro และ Lotus’s ในระดับ1-2% สะท้อนการเติบโตของยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นสินค้าจำเป็น ยังทำได้และเติบโตได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีก

พร้อมคาดกำไรขั้นต้นดีขึ้นในทุกธุรกิจ จากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าแบรนด์ของตัวเอง, สินค้ากลุ่มอาหารสดอาหารพร้อมทาน ที่มีอัตราการทำกำไรดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงจากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้นของการขยายช่องทางขายออนไลน์

โดยคงมุมมองบวกต่อ CPAXT จากแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโตดีต่อเนื่อง 5 ไตรมาสติดกัน ทั้งจากยอดขายที่เติบโตและการบริหารต้นทุนที่ดีหนุนให้การทำกำไรดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หุ้น TRUE ลุยเพิ่มรายได้-ลดค่าใช้จ่าย หวังภาพรวมปีนี้พลิกกำไรหลัก

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TRUE รายงานกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7,199 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.6% ด้าน EBITDA เติบโตต่อเนื่องเป็นไตรมาส ที่ 6 ติดต่อกัน โดยรายได้จากการให้บริการที่เติบโตขึ้นจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และธุรกิจออนไลน์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดําเนินธุรกิจลดลง หลังเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินงาน

อย่างไรก็ดี บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทจํานวน 1,879 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว 4,277 ล้านบาท จากการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย

ฝ่ายวิจัยฯ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TRUE มีกําไรปกติในไตรมาส 2/67 ดีขึ้นกว่าตลาดคาด เพราะรายได้โตขึ้นขณะที่ค่าใช้จ่ายลดลง แต่หากรวมรายการพิเศษจากการด้อยค่าสินทรัพย์จะยังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่

อย่างไรก็ตาม เราได้ปรับประมาณการกําไรปกติปี 2567-2568 ของ TRUE ขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 122% สะท้อนกําไรปกติไตรมาส 2/67 ที่สูงกว่าคาดมาก และแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดจะดีกว่าครึ่งปีแรก คงคําแนะนํา “Outperform” เพราะระยะสั้นมีปัจจัยบวก จากกําไรปกติออกมาดี และภาพรวมทั้งปีที่จะพลิกมีกําไรปกติได้จากที่เคยขาดทุนปกติปีก่อน

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney