ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) เซ็ปเป้ มีรายได้จากการขาย 1,996.2 ล้านบาท เติบโต 20.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 1,656.9 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 410.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.5% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 312.3 ล้านบาท ทำ All Time High ต่อเนื่อง
ผลักดันให้ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีรายได้จากการขายรวม 3,832.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,177.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 763.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 587.1 ล้านบาท ขณะที่ อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 20.6% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 18.8% โดยเป็นการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับตลาดต่างประเทศที่มีการส่งออกสินค้าไปยัง 100 ประเทศทั่วโลก เซ็ปเป้ มีรายได้จากการขาย 1,658 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะตลาดในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 42.3% และ 31.9% ตามลำดับ ส่งผลให้ช่วงครึ่งแรกปี 2567 เซ็ปเป้ มีสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศคิดเป็น 83% โดยเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการบริโภคสินค้าของกลุ่มลูกค้าเดิม และความสามารถในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในกลุ่มลูกค้าใหม่ อีกทั้งช่วงก่อนหน้านี้ได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องในทวีปเอเชีย ทั้งเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดในประเทศ เซ็ปเป้ มีรายได้จากการขาย 338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากการเติบโตของทุกแบรนด์ โดยเฉพาะเครื่องดื่มน้ำผสมวิตามินแบรนด์ B’lue และมะพร้าวน้ำหอมแบรนด์ All Coco ที่มีการเติบโตโดดเด่นในช่องทางห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ขณะที่แบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ (Sappe Beauti) เติบโตได้ดีในช่องทางร้านค้าดั้งเดิม (Traditional Trade) และช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีแรกได้ออกสินค้าใหม่แบรนด์ B’lue 2 รสชาติ 2 อารมณ์ คือ “รสอกหัก” และ “รสคลั่งรัก” และผลิตภัณฑ์คอลลาเจนชนิดผง เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (Sappe Beauti Powder Stix) ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างดี
“เรายังเดินตามเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ไทยให้เป็น Global Brand โดยนอกจากการเพิ่มช่องทางการขาย สร้างแบรนด์ในตลาดโลกให้แข็งแกร่ง และออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับตลาดทั้งในและต่างประเทศแล้ว ในปีนี้นับว่าเรามีการออกแคมเปญในต่างประเทศค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น Special Gift และ Special Pack จาก Mogu Mogu และยังมีการแตกไลน์สินค้ารูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์ Mogu Mogu จำหน่ายในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเริ่มทยอยเปิดตัวไปแล้วก่อนหน้าอย่าง Mogu Mogu Candy จำนวน 4 รสชาติ และ Mogu Mogu Pretzel อีก 3 รสชาติ เป็นต้น สร้างความตื่นเต้นให้ตลาดต่างประเทศไม่น้อย นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/2567 เซ็ปเป้ ได้เพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 ไลน์การผลิต หรือเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 20-25% เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต” นางสาวปิยจิต กล่าว.