หุ้นกู้ EA ส่อวิกฤติ! ขอเลื่อนคืนหนี้ 1.5 พันล้าน ออกไป 10 เดือน 15 วัน เพิ่มดอกเบี้ยเป็น 5%

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้นกู้ EA ส่อวิกฤติ! ขอเลื่อนคืนหนี้ 1.5 พันล้าน ออกไป 10 เดือน 15 วัน เพิ่มดอกเบี้ยเป็น 5%

Date Time: 1 ส.ค. 2567 14:08 น.

Video

คนไทยจ่ายภาษีน้อย มนุษย์เงินเดือนรับจบ ปัญหาอยู่ที่ระบบหรือคนกันแน่ ? | Money Issue

Summary

  • EA เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 10 เดือน 15 วัน จากเดิมครบกำหนด 15 สิงหาคม 2567 โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด สำหรับหุ้นกู้ EA248A วงเงิน 1.5 พันล้าน พร้อมเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 1.89% เป็น 5%

Latest


หุ้นกู้ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ส่อวิกฤติ หลังถูกปรับลดอันดับเครดิตต่ำกว่าที่ลงทุนได้ จากสํานักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ ในกรณีร่วมกระทําการทุจริต ทำให้กระทบการได้รับวงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และแผนการออกตราสารหนี้ใหม่ของบริษัทฯ เพื่อชําระตราสารหนี้เดิมที่มียอดคงค้างอยู่ในปัจจุบัน (rollover)


ทั้งนี้ EA เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 10 เดือน 15 วัน จากเดิมครบกำหนด 15 สิงหาคม 2567 โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด สำหรับหุ้นกู้ EA248A วงเงิน 1.5 พันล้าน พร้อมเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 1.89% เป็น 5%


โดยบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) หรือ EA ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ แจ้งต่อผู้ถือหุ้นกู้ผ่านสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ว่า บริษัทฯ เห็นสมควรให้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-meeting) โดยเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 09.00 น. เพื่อพิจารณาเรื่องต่างๆ ตามระเบียบวาระการประชุมดังต่อไปนี้


วาระที่ 1 พิจารณาขอผ่อนผันการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นกู้เพื่อจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้เป็นระยะเวลาน้อยกว่า 14 วันก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ไม่ให้ถือเป็นกรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่ปฏิบัติตามข้อกําหนดสิทธิ


เนื่องจากบริษัทฯ มีความจําเป็นต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในครั้งนี้โดยเร็วและเป็นกรณีเร่งด่วน และเพื่อให้บริษัทฯ มีระยะเวลาในการดําเนินการด้านต่างๆ หลังจากวันประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ดังนั้น จึงมีความจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดําเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567 อันมีผลให้ระยะเวลาในการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นกู้มีระยะเวลาน้อยกว่า 14 วัน ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อกําหนดสิทธิ ข้อ 4.4 


วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติ (ก) การขยายวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 10 เดือน 15 วัน โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด และการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 1.89 ต่อปี (นับตั้งแต่วันครบกําหนด ไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมจนถึงวันครบ 10 เดือน 15 วันนับจากวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม) โดยจะชําระดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงอัตราที่เพิ่มขึ้นทุก 6 เดือนนับจากวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม


และ (ข) การเพิ่มหลักประกันแก่หุ้นกู้ รวมทั้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดสิทธิของหุ้นกู้ รวมถึงเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว


ตามที่บริษัทฯ ได้ออกเสนอขายหุ้นกู้ EA248A ซึ่งเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยมีวันครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 มูลค่าเงินต้นทั้งหมด 1,500,000,000 บาท และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.11 ต่อปี กําหนดชําระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน โดยบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ได้ก่อนวันครบกําหนดไถ่ถอนนั้น


เนื่องด้วยบริษัทฯ ได้ถูกปรับลดอันดับเครดิตองค์กร และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทฯ มาอยู่ที่ระดับ “BB+” จากเดิมที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” ซึ่งเป็นอันดับความน่าเชื่อถือที่อยู่ในระดับต่ำกว่าที่ลงทุนได้


โดยการถูกปรับลดความน่าเชื่อถือดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สํานักงาน ก.ล.ต.”) ได้กล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในกรณีร่วมกระทําการทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์ ที่มิควรได้แก่ตนเอง และ/หรือผู้อื่น


ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบริหารจัดการทางการเงินของ บริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการได้รับวงเงินกู้ยืมเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินและแผนการออกตราสารหนี้ใหม่ของบริษัทฯ เพื่อชําระตราสารหนี้เดิมที่มียอดคงค้างอยู่ในปัจจุบัน (rollover) ซึ่งรวมถึงการชําระหนี้เพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ EA248A

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์