ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุน Thai ESG โดยเพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเป็น 3 แสนบาทต่อปี และลดระยะเวลาการถือครองเหลือ 5 ปี โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มองเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย
นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต ยังเปิดเผยว่า อยู่ระหว่างศึกษาหลักการและวิธีปฏิบัติ เพื่อตั้ง “กองทุนเยียวยาผู้เสียหาย” จากกฎหมายปัจจุบันระบุให้เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิดเป็นรายได้แผ่นดิน
พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับปรุงมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย กองทุน Thai ESG แล้ว โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็น 3 แสนบาท/คน/ปี จากเดิม 1 แสนบาท/คน/ปี และลดระยะเวลาการถือครองเป็น 5 ปี จากเดิม 8 ปี ทั้งนี้ ผู้ลงทุน ที่ลงทุนในกองทุน Thai ESG จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเริ่มตั้งแต่ปีปฏิทิน 2567 หรือเดือนมกราคม เป็นต้นไป
สำหรับเงื่อนไขการลงทุนของ กองทุน Thai ESG กำหนดให้ลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้ อย่างน้อย 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยมีการขยายขอบเขตหุ้นที่ให้ลงทุนได้ ให้มีความกว้างขึ้น ณ ปัจจุบันใน SET ESG Rating เชื่อว่าเป็นปัจจัยบวกในการช่วยฟื้นดัชนีตลาดหุ้นไทยได้
นอกจากนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนผู้จัดทำ ESG Ratings จากตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็น FTSE Russell ซึ่งกองทุน Thai ESG ที่จัดตั้งและเสนอขายแล้ว สามารถใช้ผลการประเมิน ESG ratings จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดทำ ESG ratings เป็น FTSE Russell อย่างเป็นทางการ โดยการปรับปรุง Thai ESG ในครั้งนี้ ได้ปรับให้รองรับการใช้ผลการประเมินหุ้นที่จัดทำโดยผู้ประเมินฯ ที่มีมาตรฐานสากลแล้ว
ขณะเดียวกัน เมื่อมีการเปลี่ยนไปเป็น FTSE Russell อย่างเป็นทางการแล้ว Thai ESG สามารถขอแก้ไขรายละเอียดโครงการ เพื่อเปลี่ยนไปใช้ผลการประเมินที่จัดทำโดย FTSE ได้ ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวสามารถทำแบบง่าย เพียงยื่นคำขอแก้ไขรายละเอียดโครงการผ่านระบบของสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งจะได้รับความเห็นชอบโดยทันที
ส่วนกรณีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ประสงค์จะใช้บริการผู้ประเมินรายอื่น เช่น S&P Global MSCI เป็นต้น ก็สามารถทำได้โดยสำนักงานจะพิจารณาว่า การปรับเปลี่ยนผู้ประเมินฯ ทำให้ความเสี่ยงของกองทุนเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และควรแก้ไขรายละเอียดโครงการโดยอาศัยอำนาจสำนักงานในการพิจารณาเห็นชอบ หรือขอมติผู้ถือหน่วยลงทุน ต่อไป
สำหรับกองทุน Thai ESG ที่จะขอจัดตั้งใหม่ บลจ. สามารถยื่นคำขอจัดตั้ง Thai ESG โดยใช้ผลการประเมินหุ้นที่มีความโดดเด่นด้าน E หรือ ESG จากผู้ประเมินฯ ที่มีคุณสมบัติตามที่เกณฑ์กำหนดได้ ตั้งแต่วันที่ประกาศที่ปรับปรุงใหม่มีผลบังคับใช้ คาดว่า 16 ส.ค. 67 ทั้งนี้ Thai ESG ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอจัดตั้งและแก้ไขโครงการจาก ก.ล.ต. เช่นเดียวกับ SRI Fund ตลอดปี 2567 ด้วย
พรอนงค์ กล่าวอีกว่า ความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ ปัจจุบันกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างทบทวนในรายละเอียด โครงสร้างอัตราผลตอบแทน จำนวนเงินระดมทุน ยังต้องติดตามรายละเอียดที่จะออกมา ซึ่งยังอยู่ในแผนปีนี้
อย่างไรก็ตาม ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวก จากจะมีเม็ดเงินที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่ง ก.ล.ต.พร้อมสนับสนุนและอำนวยให้สามารถดำเนินการได้เร็ว มองเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนระยะยาว
พรอนงค์ เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต. เดินหน้าแนวทางการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิด และการลดโอกาสในการเกิดทุจริต โดยเสนอปรับปรุงกฎหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงการผลักดันการด้านการบังคับใช้กฎหมายและประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เช่น DSI และสำนักงานอัยการสูงสุด สำหรับเคสที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและมีผลกระทบวงกว้าง
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างศึกษาหลักการและวิธีปฏิบัติ เพื่อตั้ง “กองทุนเยียวยาผู้เสียหาย” ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขกฎหมาย คาดใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี จากกฎหมายปัจจุบันระบุให้เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิดเป็นรายได้แผ่นดิน นำส่งกระทรวงการคลัง
โดยในต่างประเทศมีวิธีการปฏิบัติเพื่อเยียวยาผู้เสียหายแตกต่างกันไป แต่โดยหลักการนั้น หากมีการเรียกให้ชดใช้ผลประโยชน์ จะมีกระบวนการพิสูจน์ทราบว่าใครบ้างเป็นผู้เสียหาย และนำเงินมาเฉลี่ยคืนตามความเสียหายนั้น ซึ่งต้องใช้ความรอบคอบในการดำเนินการ
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้