ตลท. ดึง FTSE Russell ช่วยประเมิน ESG บจ. หวังช่วยแก้วิกฤติศรัทธาในตลาดหุ้นไทย

ประเด็นด้าน “ความยั่งยืน” ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนถูกกดดันอย่างหนัก จากบริษัทจดทะเบียนบางรายที่เคยอยู่ใน SETESG และมีคะแนน CG ระดับสูง เกิดปัญหา “ทุจริต” ทำให้นักลงทุนหลายคนกังวลว่าข้อมูลที่เปิดเผยอยู่นั้น จะยังสามารถเชื่อถือและใช้เพื่อประกอบการพิจารณาลงทุนได้อยู่หรือไม่

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ “FTSE Russell” ผู้จัดทำดัชนีหลักทรัพย์ชั้นนำจากอังกฤษ เตรียมความพร้อมสำหรับการประเมินด้านความยั่งยืน ยกระดับมาตรฐานเพื่อให้ทัดเทียมสากลฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน คาดเริ่มใช้ปี 2569

ใช้ FTSE ประเมิน ESG ปี 2569

ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ศึกษาแนวทางการประเมิน ESG สำหรับบริษัทจดทะเบียนไทยมาตั้งแต่ปี 2565 และได้ข้อสรุปร่วมกับ FTSE Russell ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้ลงทุนสถาบัน และ Asset manager ชั้นนำทั่วโลก

ในปัจจุบันการประเมิน SET ESG Ratings เป็นภาคสมัครใจ โดย บจ. ต้องสมัครเข้าร่วมการประเมิน ในขณะที่กระบวนการประเมินแบบใหม่โดย FTSE Russell จะเน้นการประเมินจากข้อมูลที่ บจ. เปิดเผยสู่สาธารณะ (Public Disclosure) ซึ่งเป็น Methodology เดียวกันกับที่ประเมินบริษัทกว่า 8,000 แห่งใน 47 ประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ยกระดับความโปร่งใสของการประเมิน อีกทั้งยังลดภาระการตอบแบบประเมินความยั่งยืนของ บจ. และช่วยให้มีกรอบการดำเนินงานตามมาตรฐานสากล

ความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และ FTSE Russell เป็นก้าวสำคัญของตลาดทุนไทยที่จะช่วยส่งเสริมให้ บจ. ไทย พัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสู่ระดับสากล และสนับสนุนให้ผู้ลงทุนพิจารณา ESG ประกอบการตัดสินใจลงทุนตามเทรนด์การลงทุนอย่างยั่งยืน

ด้าน ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือดังกล่าวนั้น FTSE Russell จะมาเป็นพาร์ตเนอร์ในการช่วยพัฒนาการประเมินด้านความยั่งยืน และให้บริการข้อมูล ESG Score และ ESG Index ในช่วงแรก จากปัจจุบันที่ให้บริการโดยตลาดหลักทรัพย์

ทั้งนี้ FTSE ถือเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating Agency) ที่จะมา “ลงแรง” เพื่อจัดทำข้อมูลให้ครอบคลุมบริษัทจดทะเบียนไทยให้มากขึ้น จากปัจจุบันครอบคลุมจำนวน 30-40 บริษัทจดทะเบียนไทย โดยระหว่างปี 2567-2568 จะเริ่มมีการประเมินจาก FTSE Russell ซึ่งในช่วงแรกจะเปิดเผยข้อมูลต่อบริษัทจดทะเบียนก่อน เพื่อให้เกิดการพัฒนาปรับปรุง ควบคู่กันไประหว่างการประเมิน SET ESG Rating และคาดว่าจะเริ่มเปิดเผยข้อมูลให้กับนักลงทุนได้ภายในปี 2569

อย่างไรก็ดี ตลาดหลักทรัพย์ฯ พยายามเดินหน้าปรับปรุงการประเมินคะแนนด้านความยั่งยืนให้มีมาตรฐานและมีความเป็นสากลมากขึ้น ซึ่งการที่มีคู่เทียบมากขึ้น มองว่าจะทำให้สามารถตรวจพบความผิดแปลกของข้อมูลได้ง่ายมากขึ้น

เตรียมประกาศข่าวดี Thai ESG

ด้าน พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ส่งเสริมให้มีการยกระดับและพัฒนามาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลด้านยั่งยืน อย่างมีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ให้ทัดเทียมสากลเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นมากขึ้น และให้นักลงทุนสามารถนำข้อมูลไปเปรียบเทียบเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนมากขึ้น

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม ในการจัดให้มีการรับรองการรายงานข้อมูลความยั่งยืน เพื่อให้เกิดการพัฒนามาตรฐานใหม่ด้วย

สำหรับความคืบหน้า กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ที่ได้มีแนวทางเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีและลดระยะเวลาการถือครอง คาดว่าจะมีการประกาศข่าวดีอย่างเป็นรูปธรรมในวันนี้ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจและเป็นทางเลือกในการลงทุนระยะยาว ที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความยั่งยืนให้กับนักลงทุนมากขึ้น

อย่างไรก็ดี หลังจากที่จัดตั้ง Thai ESG เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 พบว่าปัจจุบันมีกองทุนมีจำนวน 32 กองทุน มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท