มุมมองหยวนต้า!!

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

มุมมองหยวนต้า!!

Date Time: 26 ก.ค. 2567 05:09 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ก.ค.67 ปิดที่ 1,291.58 จุด ลดลง 6.50 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 34,128.34 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 225.23 ล้านบาท

Latest

เก็บหุ้นปันผล

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด DELTA ปิด 91.50 บาท ลบ 0.25 บาท, CPALL ปิด 57 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท, FM ปิด 4.16 บาท ลบ 1.24 บาท, TOP ปิด 51 บาท ลบ 1.25 บาท, ADVANC ปิด 223 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกอ่อนตัวลงจากแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงในช่วง Earning Season และการกลับสถานะ Yen Carry Trade จากเงินสกุลเยนที่แข็งค่าเร็ว

อย่างไรก็ตาม Downside ของ SET INDEX ถือว่ายังจำกัดกว่าภูมิภาค โดยเฉพาะหุ้น Defensive & Dividend ที่งบการเงิน 2Q67 จะออกมาสวย ยังเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด เช่น BEM, INTUCH, CPALL, GULF, 3BBIF เป็นต้น

นอกจากนี้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มชะลอความร้อนแรงลงในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับความเห็นของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ FED ที่ออกมาในเชิงผ่อนคลายมากขึ้น ตลาดจึงเริ่มปรับมุมมองว่า FED อาจลดดอกเบี้ยถึง 2-3 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่เคยคาดเพียง 1–2 ครั้ง ทำให้ Yield Curve ณ ปัจจุบันเคลื่อนไหวในลักษณะ Bull Steepening คืออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นปรับตัวลงเร็วกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เนื่องจากมีความอ่อนไหวต่อดอกเบี้ยนโยบายสูงกว่า

หยวนต้ายังประเมินว่า การที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับสูงมานานก่อนหน้านี้ ทำให้ยังมีโอกาสที่จะเกิด RECESSION ตามมา จึงเน้นไปที่กลุ่ม YIELD PLAY ที่มีความ DEFENSIVE ควบคู่กัน เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า, สื่อสาร, REIT ดังนี้ GULF, BGRIM, ADVANC, INTUCH, THCOM, LHHOTEL, 3BBIF และ BAREIT รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ

หยวนต้ายังระบุว่า ในอดีตการเคลื่อนไหวของ Yield Curve ในลักษณะ Bull Steepening เกิดขึ้นชัดเจนเพียง 2 ครั้ง คือช่วงปลายปี 2000-กลางปี 2003 และกลางปี 2007-ต้นปี 2008 ทำให้มองว่าการวิเคราะห์เชิงสถิติทำได้ค่อนข้างยาก

ดังนั้น การเกิด Bull Steepening ณ ปัจจุบันทำให้มองว่ากลยุทธ์การลงทุนควรจะเน้นไปที่สินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลง!!

อินเด็กซ์ 51

คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ