หุ้น FM ผู้ผลิตไก่แปรรูป เทรดวันแรก ต่ำจอง 14% แม้ “กองทุน-ประกันสังคม” ถือเพียบ

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น FM เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เปิดตลาดอยู่ที่ 4.60 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ -14.81% จากราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 5.40 บาท และปิดตลาดช่วงเช้าที่ 4.70 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ -12.96%

โดย FM ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ คือ ผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ และผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ 

บริษัทมีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขายไอพีโอ 1,975.66 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท บริษัทเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวนรวม 376.96 ล้านหุ้น โดยมีบริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท คือ กลุ่มครอบครัวดุษฎีโหนด ถือหุ้นอยู่จำนวน 51.84% ขณะที่พบว่านักลงทุนสถาบัน ถือหุ้นจำนวนมาก อาทิ North Haven Thai Private Equity Dominic Company (Hong Kong) Limited ถือ 98 ล้านหุ้น หรือ 10% กรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล LTF ถือ 6.8 ล้านหุ้น หรือ 0.69% สำนักงานประกันสังคม โดย บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ถือ 6.7 ล้านหุ้น หรือ 0.68% เป็นต้น

ณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น FM เปิดเผยว่า การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนของบริษัท ในการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเชื่อมั่นว่าความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน 

ขณะที่ผู้ถือหุ้นหลักภายหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอ ได้แก่ กลุ่มครอบครัวดุษฎีโหนด 51.84% และนอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ โดมินิค คอมปานี (ฮ่องกง) 10% ทั้งนี้ FM มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิฯ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า FM มีศักยภาพเติบโตสูง จากการมีฐานธุรกิจแข็งแกร่งทั้งด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ การมุ่งเน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำ

ทั้งนี้ คาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรต่อปี (CAGR) 3 ปีข้างหน้าที่ 31% จากการขยายกำลังการผลิต การขยายตลาด การเพิ่มยอดขายสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) ซึ่งมีอัตรากำไรสูง และการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง

โดยคาดว่าอัปไซด์ต่อประมาณการกำไรจะมาจากการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงประเมินราคาเป้าหมายที่ 8.90 บาท ภายใต้ P/E 17 เท่า ราคาไอพีโอที่ 5.40 บาท คิดเป็น P/E 10.3 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ 13.8 เท่า.

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney