หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด DELTA ปิด 93.50 บาท บวก 3.50 บาท, PTTEP ปิด 146 บาท ลบ 3.50 บาท, PTT ปิด 32 บาท ลบ 0.75 บาท, BBL ปิด 136.50 บาท บวก 3.50 บาท, BTS ปิด 4.12 บาท ลบ 0.22 บาท
กรณีที่ ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปรามปราบการฟอกเงิน (ปปง.) รวมถึงบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้
ซึ่งส่งผลให้ บลจ.หลายแห่งได้ประกาศแยกส่วนการลงทุนที่เป็นหุ้นกู้ EA ออกจากทรัพย์สินอื่นๆ ของกองทุนรวม (Set Aside) และจะไม่นำหุ้นกู้ EA มาคำนวณรวมใน NAV ของกองทุน
โดย บลจ.ไทยพาณิชย์ แจ้งชื่อ 8 กองทุน ที่ลงทุนในหุ้นกู้ EA โดยตั้ง Side Pocket หุ้นกู้ EA ส่วน บลจ.อีสท์สปริง เผยมี 7 กองทุนที่ดำเนินการ Set Aside ขณะที่ บลจ.วรรณ เปิดชื่อ 2 กองทุน ตั้ง Side Pocket ส่วน บลจ.แอสเซท พลัส มี 3 กองทุน ที่ลงทุนตั๋วแลกเงินระยะสั้น-หุ้นกู้ EA
บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) ชี้แจงว่า กองทุนรวมภายใต้การจัดการของ SCBAM ไม่มีการลงทุนในหุ้นของ EA แต่มีการลงทุนในหุ้นกู้ของ EA โดย SCBAM พิจารณาแล้วเห็นว่า EA มีความเสี่ยงที่สถานะทางการเงินของบริษัทจะถดถอยลง สอดคล้องกับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของทริสเรทติ้งที่ “Negative”
ทั้งนี้ SCBAM ได้ดำเนินการด้วยความพยายามสูงสุดในการปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ EA มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยข้อจำกัดด้านสภาพคล่องของตราสาร การปรับลดสัดส่วนการลงทุนอาจต้องใช้ระยะเวลา
ในการนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน SCBAM จึงแยกส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ EA ออกจากทรัพย์สินอื่นของกองทุนรวม ด้วยการใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง Side Pocket ตามเกณฑ์ ก.ล.ต. กำหนดตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.67 โดยหุ้นกู้ EA จะไม่นำมารวมคำนวณใน NAV ของกองทุน
มีผลให้การเปลี่ยนแปลงด้านราคาของหุ้นกู้ EA จะไม่ส่งผลกระทบต่อกองทุนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการคำนวณมูลค่า NAV และผู้ลงทุนที่เข้าลงทุนในกองทุนภายหลังไม่ต้องรับผลกระทบจากหุ้นกู้ EA.
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม