เป็นที่น่าจับตาสำหรับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว หลังเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวมากขึ้น จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนโยบาย “ฟรีวีซ่าจีน” ที่ได้เริ่มประกาศใช้แล้วในช่วงเดือนมีนาคม 2567 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น
ล่าสุด ภาครัฐเตรียมขยายนโยบาย “ฟรีวีซ่า” เพิ่มเติม โดยปรับให้ชาวต่างชาติจาก 93 ประเทศ เดินทางมาประเทศไทยได้โดยได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา และสามารถอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 60 วัน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับมุมมองของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สำหรับหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว คาดว่าจะได้รับแรงหนุน จากการที่นายกรัฐมนตรี เตรียมลงนาม “ฟรีวีซ่า” พำนักในไทยได้ไม่เกิน 60 วัน สำหรับนักท่องเที่ยว 93 ประเทศ จากเดิม 57 ประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองบวกต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวชาติมาไทยเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม จากมาตรการวีซ่าฟรี, ตามรอย MV เพลงของลิซ่า และช่วง Summer holiday ของตลาดภูมิภาคยุโรป ขณะที่นักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวต่อเนื่อง ประเมินเป็นสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยงวดไตรมาส 3/67
สำหรับการลงทุนหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว มองว่า AOT คาดหวังการฟื้นตัวของกำไรช่วงตุลาคม 2567 - มีนาคม 2568 จากปัจจัยฤดูกาล และระยะยาวมองว่าภาคท่องเที่ยวยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย เอื้อต่อการเติบโตของ AOT ในฐานะประตูสู่ประเทศไทย ขณะที่แนวโน้มอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ปี 2567 ถึง 2569 ราว 16% ทำได้ดีกว่าหุ้นในกลุ่มฯ
ด้าน บริษัท หลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากการผลตอบรับจากการโรดโชว์ในประเทศช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมากับนักลงทุนสถาบันในประเทศไทยนั้น นักลงทุนสนใจกลุ่มท่องเที่ยวและการแพทย์มากที่สุด
โดยเรามองว่านักลงทุนสนใจกลุ่มท่องเที่ยว (หุ้นเด่น AOT และ CENTEL) และการแพทย์ (หุ้นเด่น BH) มากที่สุด ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าแนวโน้มการเติบโตของการท่องเที่ยวยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่ราคา valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้