ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญกับปัญหาเงินไหลออก จากการเทขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยจากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รายงานว่า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิสะสมในตลาดหุ้นไทยไปแล้ว กว่า 1.18 แสนล้านบาท แต่ในอีกด้านหนึ่งกลับพบว่า สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติกลับเพิ่มขึ้น
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ออกรายงาน ส่ง SET Note ฉบับที่ 8/2567 “เปิดมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทย” โดยพบว่า นักลงทุนต่างชาติ ถือครองหุ้นไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 29.62%
รายงานฉบับนี้เป็นการศึกษาเชิงเปรียบเทียบข้อมูลการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นปี 2566 และ ณ 20 มิถุนายน 2567 สรุปผลการศึกษาพอสังเขป ดังนี้
นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวม 4.73 ล้านล้านบาท ลดลง 7.4% จากสิ้นปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงในทิศทางเดียวกันกับภาพรวมของตลาด โดย SET Index ลดลง 8.3% และจากการที่มูลค่าการถือครองหุ้นลดลงในสัดส่วนที่น้อยกว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ลดลง ส่งผลให้สัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาจาก 29.43% ณ สิ้นปี 2566 เป็น 29.62% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม
ณ 20 มิถุนายน 2567
นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวม 847 หลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นสุทธิ 24 หลักทรัพย์ จากสิ้นปี 2566 จากการถือครองหุ้นของหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนเข้าซื้อขายใหม่ในช่วงที่ศึกษา 17 หลักทรัพย์ และจากการซื้อและถือครองหลักทรัพย์จดทะเบียนซื้อขายก่อนปี 2567 จำนวน 13 หลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกัน มูลค่าการถือครองหุ้นหายไป 6 หลักทรัพย์ จาก 1) หลักทรัพย์ที่ถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 2 หลักทรัพย์ และ 2) นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นออกไป 4 หลักทรัพย์
เมื่อพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าการถือครองหุ้น ณ สิ้นปี 2566 และ ณ 20 มิถุนายน 2567 โดยจำแนกหลักทรัพย์ออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
1) หลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองทั้ง 2 จุดเวลา
2) หลักทรัพย์ที่ถูกเพิกถอนระหว่างช่วงเวลาที่ทำการศึกษา
3) หลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นออกระหว่างช่วงที่ทำการศึกษา
4) หลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นจากหลักทรัพย์จดทะเบียนเข้าซื้อขายใหม่
5) หลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองเพิ่มจากซื้อเพื่อถือครอง พบว่า มูลค่าการถือครองหุ้นที่เปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่มาจากหลักทรัพย์กลุ่มแรกที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหลักทรัพย์นั้นๆ ต่อเนื่องทั้ง 2 จุดเวลาที่ศึกษา ซึ่งหลักทรัพย์กลุ่มนี้มีมูลค่าถือครองหุ้นลดลง 387 พันล้านบาทจากสิ้นปี 2566
หากพิจารณาผลกระทบของราคาหุ้น (Price Effect) และจำนวนหุ้น (Volume Effect) ต่อมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ (Foreign Holding Value) พบว่า 80% ของมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น และอีก 20% เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นในการถือครอง อันเกิดจากกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การเข้าจดทะเบียนซื้อขายของหลักทรัพย์ใหม่, กิจกรรมซื้อขายหลักทรัพย์, กิจกรรม Corporate Actions และการระดมทุนในตลาดรอง ตลอดจนการเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เป็นต้น
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่