หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด EA ปิด 11.90 บาท ลบ 0.70 บาท, AOT ปิด 55.75 บาท ลบ 1 บาท, PTT ปิด 32.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, TRUE ปิด 8.85 บาท บวก 0.05 บาท, BDMS ปิด 26 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นไทยดิ่งลง ปรับตัวลดลงมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค จากแรงขายลดความเสี่ยงเพื่อรอความชัดเจนจากประเด็นการเมืองคดียุบพรรคก้าวไกล ขณะที่ยังต้องติดตามความเห็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์อ่านเกมเศรษฐกิจ ไทยไตรมาส 3 : ไปต่อหรือถอยหลัง ระบุว่า ประการแรก มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแล้ว เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนเมษายนและพฤษภาคมแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้น ประการที่สอง คาดว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากรัฐบาลได้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณที่มีการใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน การใช้จ่ายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคส่วนที่พึ่งพาเงินทุนจากรัฐบาล
แนะนำหุ้นสองตัวที่เชื่อว่าจะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่กำลังดีขึ้น : SISB และ MC โดย MC เป็นหุ้นขนาดเล็กที่มุ่งเน้นไปที่การขายกางเกงยีนส์และสินค้าหรูหราอื่นๆ ในเขตชนบท เชื่อว่าบริษัทเหล่านี้จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้คนในเขตชนบทมีเงินใช้จ่ายมากขึ้น โดยรวมแล้วมีความคิดเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 67
ปิดท้าย บล.เอเซียพลัส ชี้การบังคับใช้ UPTRICK RULE เพื่อควบคุมเรื่อง SHORT SELL ส่งผลทำให้มูลค่าธุรกรรม SHORT SELL ลดลงจากค่าเฉลี่ย 5.5 พันล้านบาท/วัน ลงมาอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท หรือลดลง 79% เป็นไปตามความคาดหมาย
ประเมินว่าการลดลงของธุรกรรม SHORT SELL น่าจะมีส่วนทำให้แรงกดดันต่อราคาหุ้นลดระดับลง แต่ทำให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดลดลงไปด้วย จากนี้ต้องหวังพึ่งการกลับมาของนักลงทุนในประเทศ ผ่านกลไก TESG เกณฑ์ใหม่ และวายุภักษ์ ที่จะเริ่มเห็นใน 3Q 67
ปัจจัยแวดล้อมพื้นฐานยังให้ความสำคัญกับทิศทางดอกเบี้ย โดยยังเชื่อว่า FED น่าจะเริ่มลดดอกเบี้ย ก.ย.67 ขณะที่ไทยยังคงไว้ที่เดิม ภาวะดังกล่าวน่าจะช่วยลดการไหลออกของเงินได้ระดับหนึ่ง แรงกดดันต่อราคาหุ้นน่าจะลดระดับลง แต่แรงผลักดันราคาหุ้นก็ยังเบา หุ้น TOP PICK เลือก ADVANC, BEM และ PTTEP!!
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม