ราคาหุ้น EA หรือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ยังถูกพูดถึงอย่างมาก เมื่อราคาปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดที่ 100 บาท เหลือ 10 บาท ทำให้หลายคนได้รับผลกระทบอย่างหนัก และหนึ่งในผู้บาดเจ็บในครั้งนี้ คือ "เจ้าของ" โดย สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นรอบนี้ ส่งผลให้ตนถูกบังคับขายหุ้นอย่างหนัก แต่การเทขายครั้งนี้ ยอมรับว่า สร้างแผนที่บาดเจ็บ แต่ไม่ตาย และย้ำว่า กลุ่มยังถือหุ้นมากกว่า 50%
สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า จากภาวะราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พอร์ตลงทุนส่วนตัวถูกบังคับขายหุ้นออกมาอย่างหนัก ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาในระดับเกือบ 10 บาท โดยการบังคับขายดังกล่าวได้ปิดมูลหนี้ไปแล้ว และทางกลุ่มยังถือหุ้น EA มากกว่า 50% และเป็นผู้บริหารบริษัทต่อไป
“ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พอร์ตการลงทุนถูกบังคับขายหุ้นออกมาจำนวนมาก ซึ่งการบังคับขายดังกล่าวนั้นได้หมดไปแล้ว ไม่มีมูลหนี้ติดค้างอยู่ และอยากขอโทษกับนักลงทุนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากตนได้ใช้บริการไพรเวท เวลธ์ ของสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ได้เสนอการบริการกระจายความเสี่ยงด้วยการนำหุ้นมาใช้เป็นบัญชีมาร์จิ้น โดยในเวลานั้นมองว่าไม่มีความเสี่ยง เพราะเป็นการวางสินทรัพย์ไว้ประมาณ 3% ของสินทรัพย์ทั้งหมด เพื่อบริหารพอร์ตการลงทุน
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ EA ปรับตัวลดลงจากระดับ 100 บาท ลงมาต่ำกว่า 20 บาท ทำให้เจ้าหนี้เรียกคืนหนี้โดยต้องการให้คืนเป็นเงินสดเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะมีการบังคับขายหุ้นออกเพื่อให้ครอบคลุมกับมูลหนี้
ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอเวลาในการหาเงินทุนเข้ามาเติม และได้เจรจากับผู้ใหญ่เพื่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งทางสถาบันการเงินยืนยันที่จะขายหุ้นออกมา
โดยไทม์ไลน์การถูกขายหุ้นนั้นเกิดขึ้นในวันที่ 25 มิ.ย. วันที่ 27 มิ.ย. วันที่ 28 มิ.ย. และวันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่หนักที่สุด โดยภายหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้รับการยืนยันและได้รับการแจ้งจากสถาบันการเงินแล้วว่าการเทขายได้ครอบคลุมมูลหนี้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ต้องขอโทษนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบกับราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงแรงในช่วงดังกล่าว ซึ่งตนไม่ได้ทิ้งบริษัทตามกระแสข่าวลือ และยังมุ่งมั่นทำธุรกิจ และกลุ่มยังถือหุ้นมากกว่า 50% มุ่งมั่นในการบริหารและทำธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตให้กับผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีความเข้มแข็ง มีกระแสเงินสดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้มีการทำแบบจำลองความเสี่ยงของบริษัท หากธุรกิจในมือไม่ประสบความสำเร็จทั้งหมด ก็ยังมีเงินคืนหนี้ได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า ปัจจุบันสถานการณ์ในตลาดหุ้นในเวลานี้ได้ล้ำเส้นกับภาคธุรกิจแล้ว และกระทบกับเจ้าของบริษัท โดยที่ผ่านมาพบการทำ shorts sell ผ่าน NVDR ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นฝรั่งหัวดำแน่นอน ซึ่งมาตรการที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ บังคับใช้ จะช่วยให้สถานการณ์นี้ดีขึ้น
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่