“ธิดาศิริ ศรีสมิต” CFA รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.กสิกรไทย เตรียมพร้อมขานรับเงื่อนไขใหม่ Thai ESG เชื่อว่าเวลาถือครองที่ลดลงเหลือ 5 ปี และวงเงินลดหย่อนภาษีที่เพิ่มขึ้นเป็นสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท จะเพิ่มความสนใจให้ผู้ลงทุนและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยได้มากขึ้น ชู 2 กองทุนรักษ์โลกสู่ความยั่งยืน “K-TNZ-Thai ESG” แชมป์กองทุน Thai ESG ด้วย AUM สูงสุดในอุตสาหกรรม และ “K-ESGSI-Thai ESG” กองทุนเสี่ยงต่ำ สร้างโอกาสทำกำไรจากตราสารหนี้ภาครัฐของไทยในกลุ่มความยั่งยืน
บล.ทิสโก้ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) ช่วงไตรมาส 3/67 เชื่อว่าขึ้นอยู่กับความชัดเจนของปัจจัยการเมือง ว่าจะสามารถปลดล็อกได้หรือไม่ เพราะอัพไซด์และดาวไซด์ของดัชนีฯค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะอัพไซด์ตลาดจำกัดจากประเด็นทางการเมือง ต้องรอการเมืองปลดล็อกก่อน จึงจะส่งผลให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น ประกอบกับมาตรการของตลาดทุนใหม่ๆ เช่น UP TICK RULE และกองทุน TESG หากมีความชัดเจนขึ้น คาดว่าน่าจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
ประเมินกรอบดัชนีไตรมาส 3/67 ที่บริเวณ 1,250-1,350 จุด โดยปัจจัยบวกคือ แนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งจากการที่มีการเบิกจ่ายงบภาครัฐ และมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน เช่น การปรับเงื่อนไขกองทุน TESG และการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์
ขณะที่ปัจจัยลบคือความไม่แน่นอนของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีผลต่อค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นและอาจส่งผลให้เงินทุนต่างชาติยังไหลออกอยู่ รวมถึงการเลือกตั้งในสหรัฐฯที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าใครจะได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ เพราะบางนโยบายของผู้ชิงตำแหน่งอาจมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจจีนและอาจมีผลพวงต่อเศรษฐกิจไทยอีกด้วย
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำนักลงทุนเลือกหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นบลูชิปขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายกองทุน TESG หรือหุ้นที่ได้ประโยชน์จากความต้องการในต่างประเทศ อาทิ กลุ่มส่งออก, กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ AI และหุ้น Defensive กลุ่มโรงพยาบาล
10 หุ้นน่าสนใจ 10 Top pick ไตรมาส 3 คือ TTB, KKP, CPALL, BJC, BDMS, GULF, ERW, SIRI, SISB และ MC!!
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม