บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ประกาศลงนามสัญญาความร่วมมือกับ บริษัท กูเกิล เอเชีย แปซิฟิก จำกัด (Google) เพื่อให้บริการระบบคลาวด์ Google Distributed Cloud air-gapped โดยมุ่งเน้นให้บริการแก่อุตสาหกรรมที่ต้องจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่สำคัญหรือเป็นความลับ
นอกจากนี้ การร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการพัฒนานวัตกรรม AI และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในประเทศไทย โดยเปิดโอกาสให้ GULF ขยายธุรกิจไปสู่บริการอื่นๆ ในระบบนิเวศของ Google Cloud ในอนาคต
โดยบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น GULF แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เนื่องด้วยบริษัทฯ ได้เล็งเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในประเทศไทย จากเศรษฐกิจที่ถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากขึ้น บริษัทฯ จึงได้มี การลงทุนในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมและธุรกิจดาวเทียม อีกทั้งได้ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจศูนย์ข้อมูล (data center) โดยมี เป้าหมายในการสนับสนุนการเติบโตของระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (digital infrastructure ecosystem) ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องนั้น
เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของบริษัทฯ และเป็นการตอบสนองความต้องการในการจัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศไทย บริษัทฯ ขอแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยทราบว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 บริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จํากัด (Gulf Edge) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท จีเอสเอ ดาต้า เซนเตอร์ จํากัด (GSA DC) ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือกับบริษัท กูเกิล เอเชีย แปซิฟิก จํากัด (Google) เพื่อดําเนินธุรกิจการให้บริการระบบคลาวด์ Google Distributed Cloud air-gapped (GDC air-gapped) ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่อยู่ภายใต้ขอบเขตข้อบังคับทางกฎหมายของประเทศ และได้รับการออกแบบมาเพื่อ ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไร้ซึ่งการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะโดยสิ้นเชิง ส่งผลให้มีเสถียรภาพและความปลอดภัยของข้อมูลสูง
โดยบริษัทฯ จะดําเนินงานในฐานะ Managed GDC Provider ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ Google Cloud ที่จะช่วยผลักดันการใช้งาน GDC air-gapped สําหรับองค์กรในประเทศไทย ผ่านการให้คําปรึกษาและบริการจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการจัดการดูแลระบบอย่างครบวงจร
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของระบบ GDC air-gapped ได้แก่ กลุ่ม อุตสาหกรรมที่ต้องจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่มีความสําคัญหรือเป็นความลับ เช่น การให้บริการทางการแพทย์ พลังงาน และสาธารณูปโภค หรือการให้บริการด้านความปลอดภัยสาธารณะ โดยศูนย์ข้อมูลของ GSA DC สามารถรองรับการติดตั้งระบบคลาวด์ดังกล่าวในขอบเขตความร่วมมือนี้ได้ด้วย
ทั้งนี้ Gulf Edge เป็นพันธมิตรรายแรกที่ร่วมมือกับ Google เพื่อดําเนินธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทย นับเป็นจุดเริ่มต้น ของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการให้บริการระบบคลาวด์ในหลายรูปแบบ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: Al) เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (digital transformation) และขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมของประเทศไทย นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสความเป็นไปได้ให้บริษัทฯ สามารถขยาย การดําเนินงานทางธุรกิจไปสู่บริการอื่นๆ ในระบบนิเวศของ Google Cloud ในอนาคตได้ เช่น นวัตกรรม AI และการรักษาความ ปลอดภัยทางไซเบอร์ (cybersecurity)
ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการผนึกความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัท เนื่องจากบริษัทฯ มีประสบการณ์และความชํานาญ ในการพัฒนาและบุกเบิกธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศ โดยมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งภาคธุรกิจและภาคการเงิน มีธุรกิจในเครือที่ ให้บริการด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม รวมถึงมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจผลิตไฟฟ้าและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ซึ่งสามารถสนับสนุนความต้องการพลังงานสะอาดในธุรกิจศูนย์ข้อมูลได้ในขณะที่ Google Cloud เป็นผู้นําตลาดด้านธุรกิจคลาวด์ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และนวัตกรรม ซึ่งได้รับความไว้วางใจในฐานะพันธมิตรทางเทคโนโลยีขององค์กรต่างๆ กว่า 200 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลกรวมถึงมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านนวัตกรรม Al มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการทํางานร่วมกันระหว่างทั้งสองบริษัทจะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสําหรับการเติบโตในอนาคตสําหรับภาค โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลต่อไป
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้