จับตา 18 มิ.ย.คดีการเมือง ปัจจัยการเมืองฉุดดัชนีหุ้นหลุด 1,300 จุด

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

จับตา 18 มิ.ย.คดีการเมือง ปัจจัยการเมืองฉุดดัชนีหุ้นหลุด 1,300 จุด

Date Time: 18 มิ.ย. 2567 08:01 น.

Summary

  • ตลาดหุ้นไทยวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ที่นักลงทุนกังวลกับคดีใหญ่ทางการเมือง ที่มีผลกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศที่กำลังจะมีการตัดสินในเร็วๆนี้ ส่งผลให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พากันเทขายหุ้นทั้งกระดาน กดดัชนีหุ้นไทยปรับตัวดิ่งลงอย่างรุนแรงตั้งแต่เปิดตลาด

Latest

AOT จ่อคืนเงิน 193 ล้านบาท ให้ คิง เพาเวอร์ฯ หลังเรียกคืนพื้นที่ขยายอาคารฯ รับนักท่องเที่ยวเพิ่ม

ตลาดหุ้นเผชิญสารพัดแรงกดดัน การซื้อขายวันที่ 17 มิ.ย.ลดลง 9.97 จุด หลุด 1,300 จุด นักวิเคราะห์ฟันธง การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ 18 มิ.ย.นี้ จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ “จุลพันธ์” การันตีหุ้นไทยผันผวนเพราะการเมือง แต่เป็นเหตุการณ์ระยะสั้นๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ที่นักลงทุนกังวลกับคดีใหญ่ทางการเมือง ที่มีผลกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศที่กำลังจะมีการตัดสินในเร็วๆนี้ ส่งผลให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พากันเทขายหุ้นทั้งกระดาน กดดัชนีหุ้นไทยปรับตัวดิ่งลงอย่างรุนแรงตั้งแต่เปิดตลาด ส่งผลให้ดัชนีดิ่งลงมาต่ำสุดของวัน ที่ระดับ 1,288.58 จุด ลดลง 17.98 จุด โดยผันผวนในแดนลบตลอดทั้งวัน ก่อนมาปิดทำการที่ระดับ 1,296.59 จุด ลดลง 9.97 จุด ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้ ท่ามกลาง มูลค่าการซื้อขาย 40,599.15 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,706.28 ล้านบาท

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นหลุด 1,300 จุด มาจากแรงกดดันการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 18 มิ.ย. แต่มองเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นพื้นฐานดีราคาถูก เพราะช่วงเวลาของการพิจารณาคดีทางการ เมือง จะมีการพิจารณางบประมาณปี 2568 หาก ไม่มีปัญหาการพิจารณางบประมาณ รวมไปถึงภาพการเมืองที่คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

“ทุกการเปลี่ยนแปลง ต้องมีพรรคเพื่อไทยอยู่ด้วย ทำให้มองความกังวลต่อปัจจัยการเมือง เป็นปัจจัยระยะสั้น เพราะการพิจารณาคดีต้องใช้เวลาไต่สวนกว่าจะตัดสินงบประมาณปี 2568 ก็จะผ่านออกมาแล้ว ถือเป็นปัจจัยบวก ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยยังอยู่ นโยบายต่างๆก็ต้องเกิดขึ้น แผนกระตุ้นเศรษฐกิจต้องออกมา ขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้รับข่าวลบไปมากแล้ว จึงเป็นโอกาสของการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ เช่น กลุ่มอาหารค้าปลีก”

ด้านเทคนิคประเมินความเสี่ยงของการปรับตัว ลงมาได้ถึง 1,270-1,290 จุด หากการเมืองออกมาไม่ดี กรณีเลวร้ายสุด (worst case) ดัชนีจะลงไปได้ลึกสุดที่ 1,200 จุด เป็นแนวรับใหญ่ แต่มองว่าลงไม่ถึงจุดนั้น เพราะการเมืองเปลี่ยนแปลงไม่มาก ตราบใดที่ไม่เห็นทางที่จะเอาพรรคเพื่อไทยออกจากการร่วมรัฐบาล โอกาสหลุด 1,200 จุด ก็น่าจะน้อย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ความผันผวนของตลาดหุ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 มิ.ย. เป็นความผันผวนระยะสั้นเท่านั้น ปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์ทางการเมือง ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (18 มิ.ย.) ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจของนักลงทุน เชื่อว่าเมื่อผ่านวันเวลาช่วงนี้ไป สถานการณ์ตลาดหุ้นจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่กระทรวงการคลังได้เตรียม มาตรการที่จะเป็นกลไกเข้าไปช่วยสนับสนุนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดหุ้นไทย ซึ่ง รมว.คลัง อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดทั้งหมด คาดว่าจะมีข้อสรุปในเร็วๆนี้ ทั้งเรื่องการตั้งกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund : LTF) และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)

“เดือน มิ.ย.มีปัจจัยทางการเมืองหลายอย่าง ที่เข้ามาพร้อมกัน อาจทำให้เกิดความลังเล ความสงสัยในหมู่นักลงทุนระดับหนึ่ง เรื่องดังกล่าวเป็นปัจจัยระยะสั้น เมื่อคลี่คลายมีความชัดเจน ก็จะกลับมาอยู่ในสถานะปกติ รัฐบาลไม่เพียงแต่จะปรับพื้นฐานระยะสั้นเรื่องการค้าการลงทุน แต่จะพัฒนาทั้งระยะกลาง ระยะยาว อาทิ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาศักยภาพแรงงาน แผนการ Up-Skill และ Re-Skill เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน”

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ