หุ้นไทยต่ำสุดรอบ 4 ปี การเมือง-ดอกเบี้ย กดดัน 1,300 จุด เอาอยู่หรือไม่

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้นไทยต่ำสุดรอบ 4 ปี การเมือง-ดอกเบี้ย กดดัน 1,300 จุด เอาอยู่หรือไม่

Date Time: 10 มิ.ย. 2567 13:21 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงอย่างหนัก ดัชนีอยู่ที่ 1,315.66 จุด ลดลง 17.08 จุด หรือ -1.28% ถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยพบว่าแรงขายส่วนมากอยู่ในหุ้นขนาดใหญ่ ท่ามกลางปัจจัยกดดันด้านการเมือง และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 มิ.ย.67) ปรับตัวลดลงอย่างหนัก ปิดการซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีอยู่ที่ 1,315.66 จุด ลดลง 17.08 จุด หรือ -1.28% ด้วยมูลค่าซื้อขายรวม 2.33 หมื่นล้านบาท ถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยพบว่าแรงขายส่วนมากอยู่ในหุ้นขนาดใหญ่ ท่ามกลางปัจจัยกดดันด้านการเมือง และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย


วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ให้ความเห็นกับ “Thairath Money” ว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยย่อตัวลงมาเยอะ จากแรงกดดันทั้งภายนอกและภายในประเทศ เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกา ที่รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าตลาดคาด อาจหนุนให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังขยายตัวต่อ ซึ่งสร้างความกังวลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย


ขณะเดียวกัน ปัจจัยในประเทศยังมีประเด็นด้านการเมืองที่ต้องติดตามอีกหลายประเด็น เช่น คดีความทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, คดียุบพรรคก้าวไกล และการส่งฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงกดดันในระยะสั้น


ทั้งนี้ ปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมากดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญ ทำให้ยิ่งสนับสนุนภาพขาลงมากขึ้น นักลงทุนอาจเกิดความ panic และขายหุ้นออกมา เนื่องจากมีความเชื่อมั่นต่ำ โดยนักลงทุนมองว่าแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,300 จุด แต่จะสามารถยืนได้หรือไม่ ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ, การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และทิศทางอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้


อย่างไรก็ดี ปัจจุบันโมเมนตัมของตลาดอยู่ในช่วงขาลง ในเชิงกลยุทธ์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ระยะสั้นแนะนำให้รอสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนก่อน เช่น นักลงทุนต่างชาติหยุดขายสุทธิ หรือนักลงทุนสถาบันกลับมาซื้อสุทธิ ส่วนนักลงทุนที่เน้นการลงทุนในระยะกลาง-ยาว มองว่าเป็นจุดหนึ่งในการตั้งรับ และหาโอกาสในการลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานดี


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเมินตลาดหุ้นไทยผันผวนในสัปดาห์นี้ โดยมองทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองและทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยกดดัน คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยซื้อขายในกรอบ 1,295-1,340 จุด


ทั้งนี้ แนะนำติดตามความคืบหน้าการพิจารณาคดี 40 สว. ยื่นถอดถอนนายกฯ หลังนายกฯ ยื่นคำชี้แจงให้ศาล ต่อด้วยในช่วงกลางสัปดาห์ติดตามคดียุบพรรคก้าวไกลซึ่งมีกำหนดพิจารณาในวันพุธที่ 12 มิ.ย.


นอกจากนี้ในวันเดียวกันแนะนำติดตามผลการประชุม กนง. โดยคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยไว้ที่ 2.50% และรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน พ.ค. โดยตลาดคาดทรงตัวที่ 3.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


รวมถึงผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในช่วงข้ามคืนวันพุธ มองธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.50% แต่ประเด็นหลักสำคัญน่าจะอยู่ที่ Dot plot projection ซึ่งมีแนวโน้มปรับจากเดิมที่มองมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง เหลือเป็น 1-2 ครั้ง โดยตลาดอาจตีความเป็นการส่งสัญญาณเชิง hawkish และส่งผลลบต่อแนวโน้มตลาดหุ้นได้


โดยการลงทุนแนะนำหุ้น defensive เน้นตั้งรับ ผันผวนต่ำหรือปันผลสูง เช่น กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มสื่อสารและกลุ่มธนาคาร รวมไปถึงกลุ่ม Global play ที่เป็นหุ้นส่งออก เนื่องจากได้ผลกระทบจากประเด็นภายในประเทศน้อยกว่าและได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า


ด้าน บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวในกรอบ 1,315-1,350 ไร้ปัจจัยหนุน และปัจจัยการเมืองยังคงเป็นแรงกดดัน โดยเฉพาะการพิจารณาตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งน่าจะกดดันให้ตลาดหุ้นไทย Underperform ไปอีกสักพัก


อย่างไรก็ตาม ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยสะสมเช่นเดิม เพราะมองถึงการฟื้นตัวในช่วงถัดไป เน้นที่กลุ่มค้าปลีก, ศูนย์การค้า, ท่องเที่ยว, การเงิน, ธนาคารพาณิชย์, ส่งออก และอสังหาริมทรัพย์

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ