VGI ขาดทุนหนัก 3,489 ล้าน รับรู้ด้อยค่า “หุ้นเคอรี่” เร่งขอมติผู้ถือหุ้นล้างบัญชี

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

VGI ขาดทุนหนัก 3,489 ล้าน รับรู้ด้อยค่า “หุ้นเคอรี่” เร่งขอมติผู้ถือหุ้นล้างบัญชี

Date Time: 27 พ.ค. 2567 11:00 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • -VGI ขาดทุนหนัก 3,489 ล้านบาท รับรู้ผลด้อยค่าขายหุ้น KEX
  • -เร่งขอผู้ถือหุ้นล้างผลขาดทุนสะสม และเพิ่มทุนPP หาเงินขยายธุรกิจ

Latest


เรียกว่าเจ็บแต่จบ สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหาของ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ที่ล่าสุดรายงานผลการดำเนินงานในปี 2566/2567 ที่ขาดทุน 3,489 ล้านบาท ซึ่งผลสำคัญมาจากการตัดขายหุ้น บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ KEX ที่มีปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ลดลง  


โดย จิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผย ผลการดำเนินงานของปี 2566/67 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการและการขายทั้งหมด 4,813 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนจากรายได้ของธุรกิจสื่อโฆษณา 44% ธุรกิจการให้บริการด้านดิจิทัล 32% และสัดส่วนรายได้จากธุรกิจการจัด จําหน่าย 24% ซึ่งรายได้จากธุรกิจการจัดจําหน่ายลดลง 23.1% 


รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาในปี 2566/67 อยู่ที่ 2,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  8.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของ อัตราใช้สื่อโฆษณาในทุกประเภทสื่อ โดยปี 2566/67 มีอัตราใช้อยู่ที่ 47.1% เพิ่มขึ้นจาก 45.1% ในปีก่อนหน้า แม้ว่า บริษัทฯ มีกําลัง การผลิตสื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 จากปีก่อนหน้ารายได้จากธุรกิจการให้บริการด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้น 8.5% จากปีก่อนหน้า ไปอยู่ที่ 1,544 ล้านบาท มีสาเหตุมาจากการได้รับแรงหนุนจากแคมเปญการตลาดในปีที่ผ่านมาทําให้มีการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานบัตรแรบบิทและอัตราการใช้ การเติบโตอย่างมากของยอดการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการ ออกจํานวนกรมธรรม์ประกันภัยที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของรายได้จาก Digital Lab ส่งผลเชิงบวกต่อทั้งรายได้ธุรกิจการให้บริการ ด้านดิจิทัลและธุรกิจสื่อโฆษณา


ในส่วนของรายได้ธุรกิจการจัดจําหน่ายมีจํานวน 1,163 ล้านบาท ลดลง 23.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากการปรับกลยุทธ์ในการเพิ่มอัตรากําไรผ่านการพัฒนาแบรนด์ของตนเอง ณ สิ้นสุดปี 2566/67 มีสัดส่วนของแบรนด์ตนเองที่ 21%จาก17% ในปี 2565/66อย่างไรก็ตาม รายได้จาก TURTLE เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากรายได้จากพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์และรายได้ของธุรกิจค้าปลีก โดยในปีที่ผ่านมา มี การขยายสาขาของร้าน Turtle ทั้งหมด 19 ร้าน


ในปี 2566/67 บริษัทฯ มีกําไรขั้นต้นทั้งสิ้น 1,454 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีสาเหตุมาจากการปรับรูปแบบสินค้า โดยเน้นมาที่สินค้าของตนเองที่ให้กําไรขั้นต้นสูงกว่า นอกจากนี้ RCare ได้พัฒนาประสิทธิภาพในการทํางานและลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ยิ่งไปกว่านั้น การขยายสาขาของร้าน Turtle นํามาสู่การประหยัดต่อขนาด (Economy of scale) และการพัฒนาประสิทธิภาพในการดําเนินงาน บริษัทฯ มีต้นทุนบริการและขายลดลง 4.5% จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้อัตรากําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 30.2% จาก 27.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า


รายได้อื่นลดลง 26.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ไปอยู่ที่ 647 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากรายการพิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจํา ได้แก่ กําไรจากการจําหน่ายเงินลงทุนในบริษัทร่วม ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารเพิ่มขึ้น 24.4% จากปีก่อนหน้า ไปอยู่ที่ 2,522 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากการขยายสาขา ของ TURTLE และการขยายธุรกิจของ RCash และค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจํา ได้แก่ ค่าวิชาชีพทนายความ เป็นต้น แต่รายได้ค่อนข้างคงที่ ทําให้อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารต่อรายได้ในปี 2566/67 เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 52.4 %จาก 41.6% ในปี 2565/66


นอกจากนี้ยังมีรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจํา อันเกิดจาก การบันทึกขาดทุนจากการจําหน่ายเงินลงทุน KEX จํานวน 2,363 ล้านบาท และ ขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วมจํานวน 433 ล้านบาท

ในปี 2566/67 บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทร่วมค้าและบริษัทร่วมจํานวน 735 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ซึ่งการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนนี้มีสาเหตุหลักมาจากผลการดําเนินงานที่ขาดทุนของ KEX และส่วนแบ่งกําไรที่ลดลงจาก JMart จากที่กล่าวมาทั้งหมด บริษัทฯ มีขาดทุนสุทธิประจําปี 2566/67 จํานวน 3,489 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม VGI ได้มีการเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 โดยมีวาระการขออนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมายและ ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ และ  เพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด จำนวน 559 ล้านหุ้น เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์