CKP ลุ้นพลิกกำไร “ฤดูฝน” ดันกำลังผลิตไฟฟ้าพุ่ง จับตาไตรมาส 3 ผลงานถึงจุดพีก

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

CKP ลุ้นพลิกกำไร “ฤดูฝน” ดันกำลังผลิตไฟฟ้าพุ่ง จับตาไตรมาส 3 ผลงานถึงจุดพีก

Date Time: 22 พ.ค. 2567 08:08 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • จับตาทิศทางผลประกอบการของ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CKP โบรกฯ คาดพลิกกำไรไตรมาส 2/67 หวัง “ฤดูฝน” ดันกำลังผลิตไฟฟ้าพุ่ง หนุนไตรมาส 3 ผลงานทำจุดสูงสุด

จับตาทิศทางผลประกอบการของ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CKP ธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยมีบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เป็นบริษัทแกนหลัก หลังล่าสุดรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/67 ออกมาไม่ดีนัก


โดยบริษัทรับรู้ขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท 461 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทจะรับรู้ขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงาน 241.6 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 162.9 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


โดยมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) จากปริมาณการขายไฟฟ้าที่ลดลง และค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เพิ่มขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มดอกเบี้ยโลก


นักวิเคราะห์ฯ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรไตรมาส 2/67 กลับมาเพิ่มขึ้น หลังจากไตรมาสแรกอ่อนแอ ตามปริมาณผลิตไฟฟ้าของน้ำงึม 2 และไซยะบุรี เพิ่มขึ้น รวมถึงน่าจะพลิกกลับเป็นกำไรอัตราแลกเปลี่ยน หลังเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากการมีเงินกู้สกุลดอลลาร์ของโครงการหลวงพระบางราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ทั้งนี้ คาดกำไรปีนี้กลับมาเติบโตที่ 1.8 พันล้านบาท หรือเติบโต 24% จากปีก่อน จากคาดการณ์ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากการเกิดลานีญา รวมถึงกำไรของบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (BIC) เพิ่มขึ้นตามต้นทุนก๊าซที่ลดลงจากปีก่อน และคาดค่าไฟฟ้าคงที่ตลอดปีนี้


อย่างไรก็ดี ให้คำแนะนำแนะนำ “ซื้อ” เรามองว่าแนวโน้มการดำเนินงานที่ดีขึ้นโดยเฉพาะปริมาณผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งกำไรจะทำจุดสูงสุดในไตรมาส 3/67 จะเป็นประเด็นหนุนหุ้นต่อไป และคาดปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากการเกิดลานีญา จะหนุนให้กำไรกลับมาเติบโตดีในปี


ขณะที่บทวิเคราะห์ฯ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สภาพภูมิอากาศอาจเปลี่ยนจากเอลนีโญเป็นกลางในช่วงกลางปี 2567 แบบจำลองเกือบทั้งหมดในการทำนายของ IRI ENSO ได้คาดการณ์สภาวะเป็นกลางในเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมนี้ ดังนั้น ภัยแล้งน่าจะสิ้นสุดในกลางปี และปริมาณน้ำจะดีขึ้นสู่ระดับปกติ นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้ของสภาวะลานีญา ซึ่งฝนจะตกมากกว่าปกติ อยู่สูงกว่า 50% ในเดือนกันยายน 2567

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 5.00 บาทต่อหุ้น หนุนโดยสภาวะภูมิอากาศเป็นกลางในช่วงกลางปี และมีแนวโน้มเป็นลานีญาตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลงในอนาคต ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในตลาดรอง


ด้าน ฝ่ายวิจัยฯ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์ แผนการลงทุนใหม่ๆ ยังอยู่ระหว่างการศึกษา ยังไม่มีข้อสรุป ช่วงนี้โฟกัสที่โครงการหลวงพระบาง กำลังการผลิต 1.46 พันเมกะวัตต์ อายุสัมปทาน 35 ปี CKP ถือหุ้น 50% คาดจะเดินเครื่องได้ตามแผนต้นปี 2573 ทำให้ช่วงสั้น ผลการดำเนินงานของ CKP จะอิงตามฤดูกาลของฝนเป็นหลักอยู่

โดยปกติในไตรมาส 1 จะเป็นช่วงฤดูแล้ง และฟื้นตัวในไตรมาส 2 ซึ่งฝนจะเริ่มตกช่วงปลายไตรมาส และจะทำระดับสูงสุดของปีในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน และลดลงในไตรมาส 4 หลังผ่านช่วง High season ไป ดังนั้น คาดงบไตรมาส 2/67 จะดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามตัวเลขปริมาณน้ำของเดือนเมษายน และพฤษภาคมของทั้ง น้ำงึม 2 และไซยะบุรี 

เบื้องต้น คงมูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2567 เท่ากับ 4.50 บาทต่อหุ้น แต่พร้อมทบทวนประมาณการรอดูปริมาณฝนที่เกิดขึ้นในปีนี้ก่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับฐานลงมาแล้วในระดับหนึ่งสะท้อนงบไตรมาส 1/67 ที่ย่ำแย่ จึงมองเป็นโอกาสที่จะเข้า “ซื้อเก็งกำไร” ลุ้นเข้าสู่ช่วงฤดูฝนตามช่วงฤดูกาลได้ แต่ในภาพระยะยาวยังต้องรอโครงการใหม่เข้ามาต่อยอดกำไร

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ