ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น EA และหุ้นบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น NEX ต่างปรับตัวลดลงอย่างหนัก พร้อมกระแสข่าวการขายบิ๊กลอตจากผู้ถือหุ้นใหญ่ NEX ทำให้นักลงทุนต่างเกิดความกังวล และเทขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA พร้อมด้วย คณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEX ร่วมตั้งโต๊ะแถลงข่าว แสดงความแข็งแกร่งของธุรกิจกลุ่มฯ พร้อมเปิดใจประเด็นราคาหุ้น ยืนยันพื้นฐานธุรกิจยังไม่เปลี่ยน
สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ประเด็นเรื่องการลดลงของราคาหุ้น มองว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนมือระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายหุ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
ในแง่ของ EA ยังถือหุ้นอยู่ใน NEX นั้น ก็ยังถืออยู่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และด้วยยุทธศาสตร์ของเรา ยังเชื่อว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดถูกทางแล้ว จากจะเห็นว่ารถไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน จะเห็นได้ว่าการขายผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน มีการขายนอกกลุ่มบริษัทด้วย และลูกค้าคนอื่นเริ่มซื้อกับเรามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ NEX เราก็ยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่า NEX เป็นบริษัทที่มีศักยภาพ และการที่บริษัทเข้าไปถือหุ้น เพราะมองถึงการดำเนินธุรกิจระยะยาว จากมียุทธศาสตร์ร่วมกัน และเชื่อว่าสิ่งที่ทำร่วมกัน และจะทำให้บริษัทมีการเติบโตที่ยั่งยืน
สำหรับประเด็นการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นจากการขายบิ๊กลอตของผู้ถือหุ้นใหญ่นั้น มองว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อการบริหารบริษัท เนื่องจากปัจจุบัน EA ถือหุ้น NEX เกือบ 40% ซึ่งการเปลี่ยนผู้บริหารหรือครอบงำบริษัทนั้นทำไม่ง่าย
“ไม่ว่าราคาหุ้นขึ้นหรือลง ในแง่ของ EA เราไม่ได้ไปมองราคาหุ้น เรามองในเรื่องธุรกิจมากกว่า ฉะนั้น หุ้นเราไม่ได้ขยับ ไม่ได้ซื้อ ไม่ได้ขาย ทุกวันนี้เราคุยเรื่องปัจจัยพื้นฐานมากกว่า หุ้นลงได้ มันก็ขึ้นได้” สมโภชน์ กล่าว
ด้าน คณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นมีความผันผวนอย่างหนัก สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน โดยมองว่ามีสาเหตุมาจากการประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหลังจากนั้นนักลงทุนจึงทำการ Short Sell ทำให้ตลาดเกิดความ Panic
ทั้งนี้ เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนัก ทำให้ตนในฐานะที่ใช้บัญชีมาร์จินโดน Force Sell ไปบ้าง ใกล้เคียงกับผู้ถือหุ้นรายอื่น แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
“ผมเองก็ยอมรับว่ามีการใช้มาร์จิน ถึงโดน Force Sell ไปบ้าง ใกล้เคียงกับผู้ถือหุ้นรายอื่น แต่นั่นไม่ได้สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่ดีอยู่แล้วของบริษัท” คณิสสร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังเน้นย้ำว่า ตนมีความทุ่มเทให้กับบริษัท และไม่มีแผนขายหุ้นออกแม้แต่หุ้นเดียว สะท้อนจากแผนการซื้อหุ้นคืนที่ได้ดำเนินการไปแล้ว แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในบริษัท โดยจะเร่งขยายธุรกิจให้มีผลประกอบการที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุน
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้