ห้างเซ็นทรัล CPN กวาดกำไร 4.1 พันล้าน พุ่ง 28% ขายของดีแถม “ค่าไฟลดลง”
Date Time: 13 พ.ค. 2567 10:23 น.
“Summary“
- CPN กำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 ที่ 4,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% ผลประกอบการที่ดีขึ้นทุกๆ กลุ่มธุรกิจ กำไรขั้นต้นดีขึ้นสอดคล้องกับธุรกิจศูนย์การค้าจากต้นทุนค่าไฟที่ลดลง
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPN รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทฯ มีกําไรสุทธิในไตรมาส 1/67 ที่ 4,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อนหน้า โดยบริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากปีก่อน หน้าอย่างมีนัยสําคัญในทุกๆ กลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่พักอาศัยที่มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากไตรมาส 1/66
บริษัทฯ มีรายได้ค่าเช่าและบริการเติบโต 10% จากปีก่อนหน้า จาก 1) พื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์ วิลล์ และเซ็นทรัล นครสวรรค์ 2) ยอดขายร้านค้าของผู้เช่าที่สูงขึ้น และ 3) การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลาง
แม้ว่าค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยสัญญาเช่าจะเพิ่มขึ้นจากการต่อสัญญาที่ดินโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า แต่อัตราค่าไฟลดลงจากปีก่อนหน้า จากหน่วยละ 5.33 บาท เหลือ 4.18 บาท ส่งผลให้บริษัทฯ รายงานรายได้รวมไตรมาส 1/67 ที่ 12,234 ล้านบาท และกำไรที่ 4,154 ล้านบาท เติบโต 19% และ 28% จากปีก่อนหน้า ตามลำดับ
สำหรับกำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 6,501 ล้านบาท ดีขึ้น 24% จากปีก่อน สอดคล้องกับธุรกิจศูนย์การค้าจากต้นทุนค่าไฟที่ลดลง และธุรกิจที่พักอาศัยที่มีการโอนคอนโดมิเนียมในชั้นที่สูงขึ้น
สําหรับกิจกรรมทางธุรกิจที่สำคัญในไตรมาส 1/67 บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการศูนย์การค้าต่างจังหวัดอีก 2 แห่ง คือ เซ็นทรัล นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 31 มกราคม และเซ็นทรัล นครปฐม เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ต่อเนื่องจากความสำเร็จในการเปิดตัว ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 40 ในไตรมาส 4/66 ภายในโครงการได้รับการออกแบบที่ ผสมผสานกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมด้วยร้านค้าชั้นนำที่ครบครันในการตอบโจทย์ทุกกิจกรรม ทำให้อัตราการเช่า ณ วัน เปิดศูนย์การค้ามากกว่า 70%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเอสเซ็นท์ นครสวรรค์ และนครปฐม ในวันเดียวกับการเปิดตัวศูนย์การค้า โดยในไตรมาส 1 นี้ มีตัวเลขการจองซื้อค่อนข้างสูงจาก 2 โครงการข้างต้นและจาก โครงการแนวราบบางแห่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ เปิดตัวโครงการบ้านนิรดา วงแหวน-เอกชัย ในเดือนมกราคม 2567 ซึ่งเป็นการเลื่อนเปิดจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1/67 การบริโภคภาคเอกชนของไทยถูกขับเคลื่อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า พร้อมทั้งมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น โครงการ Easy E-Receipt อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคจะปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดในไตรมาส 4/66 ที่ 55.2 แต่ก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดี ขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ และความชัดเจนในมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
Author
