บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ การบินไทย งวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 45,955 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 4,448 ล้านบาท หรือ 10.7% สาเหตุหลัก เกิดจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% เนื่องจากในไตรมาสนี้บริษัทให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารในตารางการบินฤดูหนาว ปี 2566-2567 โดยมีเครือข่ายเส้นทางบินให้บริการครอบคลุม 59 จุดบิน ใน 24 ประเทศทั่วโลก โดยเป็น 8 จุดบินในประเทศ (ไม่รวม กรุงเทพมหานคร) และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังประเทศจีน ในเส้นทางปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉิงตู คุนหมิง
รวมทั้งในเส้นทางบินยอดนิยม อาทิ โอซากา ฮ่องกง สิงคโปร์ ไทเป และบริษัทฯ ยังได้เปิดเส้นทางใหม่บินตรงสู่เมืองอิสตันบูล สาธารณรัฐทูร์เคีย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร นอกจากนี้บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากกิจการอื่น เพิ่มขึ้น 642 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32.8% ซึ่งหน่วยธุรกิจส่วนใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากจํานวนเที่ยวบิน และผู้โดยสารของสายการบิน
ลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 868 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในส่วนของค่าใช้จ่ายมีจํานวน รวมทั้งสิ้น 34,880 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 6,407 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.5% โดยเพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิตและ/หรือ ปริมาณการขนส่ง จํานวนเที่ยวบิน จุดบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น การอ่อนค่าของเงินบาท รวมทั้งอัตรา ค่าบริการภาคพื้น และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้กําไรจากการดําเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวต่ำกว่าปีก่อน 1,959 ล้านบาท หรือลดลง 15.0% และสําหรับต้นทุนทางการเงิน (ซึ่งเป็นการรับรู้ต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 : TFRS 9) จํานวน 4,608 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,059 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.8%
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว สาเหตุหลักจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ ขาดทุนจากการด้อยค่าของเครื่องบิน และสินทรัพย์สิทธิการใช้อุปกรณ์การบินหมุนเวียน ถึงแม้จะมีกําไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับปรุงรายได้บัตรโดยสารที่หมดอายุ และส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ เป็นค่าใช้จ่ายรวม 4,036 ล้านบาท
ส่งผลให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกําไรสุทธิจํานวน 2,423 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 10,100 ล้านบาท โดยเป็นกําไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 2,410 ล้านบาท คิดเป็นกําไรต่อหุ้น 1.10 บาท ลดลงจากปีก่อน 4.63 บาทต่อหุ้น ลดลง 80.8% โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน รวมค่าเช่าเครื่องบินที่คํานวณจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hour) เป็นกําไรจํานวน 14,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 1 มีเครื่องบินที่ใช้ทําการบินทั้งสิ้น 73 ลํา โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบินเฉลี่ย 12.8 ชั่วโมง ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 83.5% ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม และมีจํานวนผู้โดยสารที่ทําการขนส่งรวมทั้งสิ้น 3.88 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.2%