บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น INTUCH รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/67 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า กลุ่มอินทัชมีกําไรสุทธิรวม 3,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาส 1/66 จากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกําไรจากเอไอเอส ตามการเติบโตของรายได้ทั้งจากการให้บริการและการขาย โดยเฉพาะการเติบโตของรายได้การให้บริการอินเทอร์เน็ตจากการรับรู้รายได้จาก TTTBB รวมถึงการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงิน จากหนี้ที่ใช้สําหรับการซื้อกิจการ TTTBB และ JASIF รวมถึงต้นทุนทางการเงินของหนี้สินตามสัญญาเช่า
ในไตรมาส 1/2567 อินทัชมีส่วนแบ่งกําไรจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วม รวม 3,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาส 1/2566 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของผลกําไรของเอไอเอส สุทธิกับผลขาดทุนในธุรกิจอื่นจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน ในโครงการ InVent โดยอินทัชมีค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน (ไม่รวมผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในโครงการ InVent) สําหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 33 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566
ปัจจุบันอินทัชมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลจากงบการเงินเฉพาะบริษัท โดยพิจารณาจ่ายในอัตรา 100% จากเงินปันผลที่บริษัทได้รับจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยหลังหักค่าใช้จ่าย หากไม่มีเหตุจําเป็นอื่นใด และการจ่ายเงินปันผลนั้นไม่มีผลกระทบต่อการดําเนินงานปกติของอินทัชอย่างมีนัยสําคัญ
สำหรับปัจจัยสําคัญที่อาจมีอิทธิพลและมีผลกระทบต่อฐานะการเงินหรือผลการดําเนินงานของอินทัชอย่างมีนัยสําคัญในอนาคต เนื่องจากอินทัชประกอบธุรกิจการลงทุนโดยการเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่น ดังนั้น ปัจจัยที่มีผลต่อฐานะการเงิน หรือผลการดําเนินงานอย่างมีนัยสําคัญของบริษัทที่เข้าลงทุน จึงเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่ออินทัชด้วย
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2567 ฟื้นตัวและเติบโตไม่มากนัก ถึงแม้จะมีแรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่ฟื้นต่อเนื่อง โดยหน่วยงานที่มีหน้าที่ติดตามภาวะเศรษฐกิจต่างปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยสําหรับปี 2567 ลง ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นปัจจัยสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2567 รวมถึงการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จะส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนจากภาครัฐขยายตัวมากขึ้น
เอไอเอส ซึ่งเป็นการลงทุนหลักของอินทัชมีการเติบโตของกําไรอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการขยายฐานรายได้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหลังการรับรู้ผลการดําเนินงานของ TTTBB เต็มไตรมาส ภายหลังการเข้าซื้อกิจการตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยเอไอเอสยังคงมุ่งเน้นการนําเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงผสานด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อดึงดูดและรักษาฐานผู้ใช้งานที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ในระดับสูง และสามารถส่งผลบวกต่อ ARPU โดยรวมได้
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้