เฟทโก้ ชี้ ปลุก LTF ช่วยฟื้นตลาดหุ้น เตรียมขอพบ รมว.คลัง เสนอแนวทางกระตุ้นเพิ่ม

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เฟทโก้ ชี้ ปลุก LTF ช่วยฟื้นตลาดหุ้น เตรียมขอพบ รมว.คลัง เสนอแนวทางกระตุ้นเพิ่ม

Date Time: 8 พ.ค. 2567 14:27 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • - เฟทโก้ หนุนคลังฟื้นแอลทีเอฟ เชื่อปลุกความเชื่อมั่นตลาดหุ้น
  • - เตรียมขอนัดเข้าพบ รมว.คลัง เสนอแนวทางฟื้นตลาดหุ้นไทย

Latest


สร้างความคึกคักกับตลาดหุ้นทันที หลังจาก พิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้ข่าวถึงวิธีการสร้างความเชื่อมั่นกับตลาดหุ้น โดยหนึ่งในวิธีการที่จะถูกนำมาใช้ คือ การผลักดัน กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมาอีกครั้งหนึ่ง โดยในอดีตกองทุน LTF เคยเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันเม็ดเงินเข้าตลาดหุ้นมากกว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี 

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยวา ทางเฟทโก้ จะขอเข้าพบกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเยี่ยมคารวะและเสนอแนวทางในการขับเคลื่อนตลาดทุน  และขอบคุณ รมว.คลัง ที่มีแนวทางจะฟื้นกองทุน LTF ให้กลับมาอีกครั้ง


“เบื้องต้น FETCO ยินดีอย่างมาก ท่าน รมว.คลัง ให้ความสำคัญกับตลาดหุ้นและมีแนวคิดที่จะฟื้นกองทุน LTF ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักได้”

ที่ผ่านมาปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทุน LTF ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา คือ เงื่อนไขและระยะเวลาการลงทุนที่ไม่ยาวนานเกินไป ทำให้นักลงทุนชื่นชอบในการลงทุน ซึ่งต้องหารือในรายละเอียดว่าทางกระทรวงการคลังต้องการปรับกฎเกณฑ์อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ทางเฟทโก้มองว่าหากจะนำ LTF กลับมาอีกครั้ง อยากให้มีการปลดล็อกการลงทุน ที่เดิมลงทุนได้เพียงแค่ในหุ้นอย่างเดียว ให้เป็นกองทุนแบบผสม ให้มีสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น 


เพื่อป้องกันความเสียหายในช่วงที่ตลาดหุ้นไม่ดี ไม่ต้องพักเงินไว้ในตลาดหุ้น ไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น เช่น ตลาดการเงิน เพื่อป้องกันความเสี่ยงกับผู้ลงทุน  มีแนวคิดจะเสนอปรับกฎเกณฑ์ของ Thai ESG หรือ Thailand ESG Fund ให้น่าสนใจลงทุนมากขึ้น โดยในเบื้องต้นอาจขอปรับระยะเวลาการลงทุนให้ดึงดูดใจกับผู้ลงทุนมากขึ้น


นอกจากนี้ทาง FETCO จะเสนอออกกองทุนรวมชนิดใหม่เพิ่มเติม โดยจะเป็นกองทุนออมเพื่อการศึกษาสำหรับลูกหลาน และช่วยลดหย่อนภาษี ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษากับเยาวชนในอนาคต 


สำหรับความท้าทายของตลาดหุ้นไทยในมุมมองของ FETCO นั้น มองว่าตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันมีสัดส่วนของธุรกิจโลกเก่าค่อนข้างเยอะมาก โดยกลุ่ม ปตท.มีสัดส่วนประมาณ 30% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมที่นักลงทุนไม่ให้ความนิยม ดังนั้นต้องหาแนวทางเพิ่มจำนวนหุ้น หรือธุรกิจใหม่ๆ เข้ามายังตลาดหุ้นให้มากขึ้น


โดยประเทศไทยอยู่ในจังหวะสำคัญที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนทางตรงจำนวนมาก เห็นได้จากตัวเลของ FDI ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โจทย์สำคัญของภาครัฐ คือ จะทำอย่างไรให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาใช้ประโยชน์ หรือเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้มากที่สุด 


สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในเดือนเมษายน พบว่าดัชนีในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 92.29 โดยยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ในขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ รองลงมาคือสถานการณ์เงินเฟ้อ และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคล และกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนสถาบันอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดท่องเที่ยวและสันทนาการ หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดแฟชั่น ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์