เกาะติดการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/67 โค้งสุดท้าย เป็นที่น่าจับตาสำหรับหุ้นกลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ต่างมองว่าผลงานในไตรมาสแรกยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ 2 บริษัทใหญ่อย่าง บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CK และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือหุ้น STEC ที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการออกมาไม่ดีนัก
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่อยู่ในการวิเคราะห์ของเราจะรายงานผลประกอบการเป็นลบในไตรมาส 1/67 โดยคาด CK จะรายงานผลขาดทุนสุทธิที่ 65 ล้านบาท และ STEC จะรายงานผลขาดทุนสุทธิที่ 27 ล้านบาท ตามลําดับ สาเหตุหลักๆ มาจากส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน คาดว่ากําไรของ CK และ STEC จะดีขึ้น ในไตรมาสที่ 2/67 นอกจากนี้ กลุ่มรับเหมาฯ จะได้รับปัจจัยเชิงบวกจากงานประมูลโครงการภาครัฐในช่วงที่เหลือของปีด้วย
โดย รายงานจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า เมื่อเดือน เม.ย. 2567 ได้เปิดให้ยื่นซองประมูลก่อสร้างส่วนต่อขยายทางด่วน (จตุโชติ-ลําลูกกา) ระยะทาง 16.2 กิโลเมตร มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะประกาศผลผู้ชนะการประมูลอย่างเป็นทางการภายในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน และการก่อสร้างคาดว่ามีกําหนดเริ่มได้ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ คงคําแนะนํา เพิ่มน้ำหนักการลงทุน หลังคาดว่ากลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK และ STEC) จะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตามคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/67 จะเป็น ไตรมาสต่ำสุดในปีนี้ กําไรทั้ง CK และ STEC มีแนวโน้มดีขึ้นใน 2567
โดยเลือก CK เป็น Top Pick เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีงานในมือ สูง รวมถึงโอกาสในการรับงานจาก Bangkok Express และ Metro (BEM) ในขณะเดียวกันเราแนะนําซื้อเก็งกำไรสำหรับ STEC เนื่องจากมี upside ที่จํากัด
ด้านบทวิเคราะห์ฯ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีภาพรวมผลประกอบการน่าห่วง โดยบริษัทรับเหมาใหญ่อย่าง CK คาดขาดทุน 142 ล้านบาท เกิดจากเงินบาทที่อ่อนค่าแรง ทำให้บริษัทหลวงพระบางพาวเวอร์ มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมาก ส่งผลต่อเนื่องไปถึง CKP
ขณะที่ธุรกิจก่อสร้าง แม้ยังรักษาฐานรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี แต่ก็ถูกบั่นทอนจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่อยู่ในระดับสูง และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นตามมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกขายเพิ่มในระหว่างปี
ส่วน STEC คาดขาดทุน 36 ล้านบาท นับเป็นการกลับมาขาดทุนครั้งแรกในรอบ 6 ปี กดดันจากส่วนแบ่งขาดทุนเพิ่มขึ้นในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู ขณะที่ธุรกิจก่อสร้างมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างต่ำเพราะต้องแบกรับค่าซ่อมอุโมงค์ระบายน้ำหนองบอนในส่วนที่ยังเบิกจากบริษัทประกันภัยไม่ได้
โดยบริษัทรับเหมาที่คาดกำไรเด่นคือ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TTCL คาดกำไร 108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118% จากไตรมาสก่อน หนุนหลักจากรายได้ก่อสร้างที่เติบโต และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษมากเหมือนไตรมาสก่อนที่มีการเคลียร์บัญชีลูกหนี้ ROCKSALT
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้