SPREME หุ้นเทคฯ น้องใหม่ เข้าเทรดวันแรกเหนือจอง ลุ้นประมูลงานรัฐ หนุนกำไรโต

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

SPREME หุ้นเทคฯ น้องใหม่ เข้าเทรดวันแรกเหนือจอง ลุ้นประมูลงานรัฐ หนุนกำไรโต

Date Time: 2 พ.ค. 2567 13:20 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • หุ้น SPREME เทรดวันแรกปิดตลาดเช้าอยู่ที่ 2.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ +5.38% จากราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 2.60 บาท โบรกฯ คาดกําไรสุทธิปี 2566-2568 เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 36.4% ต่อปี

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SPREME ในการเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดเช้า ราคาหุ้นอยู่ที่ 2.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ +5.38% จากราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 2.60 บาท


โดย SPREME เป็นผู้ออกแบบ ติดตั้ง และจัดจำหน่าย ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร ประกอบด้วย 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่าย (System Integrator) เช่น ระบบเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน และระบบศูนย์ควบคุมข้อมูล (Data Center) 2. ธุรกิจให้บริการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์ 3. ธุรกิจให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์


ทั้งนี้ SPREME เสนอขายหุ้นไอพีโอ รวม 200 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 468 ล้านบาท เพื่อรองรับการประมูลโครงการที่มีขนาดใหญ่ และลงทุนซื้อกิจการเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกําไรสุทธิปี 2566-2568 เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 36.4% ต่อปี โดยปี 2567 คาดเติบโตต่อเนื่องเป็น 223 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44% จากปีก่อน และปี 2568 คาดกำไร 252 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากแนวโน้มยอดขายเติบโตต่อเนื่อง


ขณะที่ในปี 2567 คาดว่าโครงการที่เข้าร่วมประมูลมีมูลค่าราว 1.0-1.2 พันล้านบาท และบริษัทจะสามารถเติบโตไปกับมูลค่าโครงการภาครัฐได้ จากบริษัทมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะภาคการศึกษา หากดูจากข้อมูลงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการกว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความสําคัญในการส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศ ทําให้โอกาสของการเติบโตในอุตสาหกรรมยังมีอีกมาก พร้อมด้วยประสบการณ์ของบริษัทฯ กว่า 30 ปี ทําให้บริษัทฯ มีอัตราการชนะประมูลกว่า 60-70%


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทเอกชนที่เข้าประมูลงานภาครัฐมาซื้อสินค้าของบริษัทฯ ไปใช้งานต่อ โดยสัดส่วนรายได้ภาครัฐและเอกชนราว 27% และ 73% ตามลําดับ


อย่างไรก็ดี ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 4.50 บาท อิง P/E ที่ระดับ 15.0 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย ของบริษัทในต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน และเปรียบเทียบกับบริษัท ในประเทศที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน บนประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2567 ที่ 0.30 บาท


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ