BH “บำรุงราษฎร์” กำไรพุ่ง 1.98 พันล้าน โต 25% รับผู้ป่วยแน่น โบรกฯ ชี้ ทำกำไรเก่งสุดในกลุ่ม รพ.

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

BH “บำรุงราษฎร์” กำไรพุ่ง 1.98 พันล้าน โต 25% รับผู้ป่วยแน่น โบรกฯ ชี้ ทำกำไรเก่งสุดในกลุ่ม รพ.

Date Time: 25 เม.ย. 2567 11:05 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ประกาศกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 25.4% เป็น 1,985 ล้านบาท รับรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทย-ต่างชาติโต โบรกฯ ชี้ สัดส่วนรายได้ต่างชาติเกินกว่า 50% ทำให้มีอัตรากำไรสุทธิสูงสุดในกลุ่มการแพทย์

Latest


บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BH รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/67 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 6,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.0% จาก 6,091 ล้านบาท ในไตรมาส 1/66 ส่วนกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 25.4% เป็น 1,985 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,583 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเป็น 30.2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/66 ที่อยู่ 26.0%


ในไตรมาส 1/67 บริษัทมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลจํานวน 6,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% จาก 6,050 ล้านบาท ในไตรมาส 1/66 โดยหลักเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทย 9.0% และผู้ป่วยต่างชาติ 7.1% ตามลําดับ เป็นผลให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยคิดเป็นสัดส่วน 33.5% ในขณะที่รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างประเทศคิดเป็น 66.5% เทียบกับไตรมาส 1/66 ที่มีสัดส่วนผู้ป่วยชาวไทยและผู้ป่วยต่างชาติ 33.1% และ 66.9% ตามลําดับ


บริษัทมีต้นทุนกิจการโรงพยาบาล (รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจําหน่าย) ในไตรมาส 1/67 จํานวน 3,146 ล้านบาท ลดลง 0.1% จาก 3,150 ล้านบาท ในไตรมาส 1/66 โดยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกิจการโรงพยาบาลในอัตรา 7.7% เป็นผลให้สัดส่วนของต้นทุนกิจการโรงพยาบาลต่อรายได้จากกิจการโรงพยาบาล ลดลงเป็น 48.3% ในไตรมาส 1/67 เทียบกับอัตรา 52.1% ในไตรมาส 1/66


ขณะที่ ค่าใช้จ่ายในการบริหาร (รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจําหน่าย) ในไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 846 ล้านบาท ลดลง 0.9% จากไตรมาส 1/66 ที่ 854 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษาซอฟต์แวร์ที่ลดลง 10 ล้านบาท


กําไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่าย (EBITDA) ของบริษัทในไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้น 21.7% เป็น 2,676 ล้านบาท จาก 2,200 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 และอัตรากําไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่า เสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย (EBITDA Margin) คิดเป็น 40.7% เทียบกับ 36.1% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน


ด้าน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2567-2568 ขึ้นเล็กน้อย 2% ต่อปี เป็น 7,250 ล้านบาท และ 7,572 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากปรับสมมติฐานการใช้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) และอัตราค่ารักษาเฉลี่ยใหม่ รวมทั้งปรับค่ารักษาเพิ่มเป็น 4%ในปี 2567 


แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ 1,700 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลง 2% จากไตรมาสก่อน หากหักรายรับพิเศษ 48 ล้านบาท คาดธุรกิจปกติมีกำไรทรงตัวจากปีก่อน และลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน เนื่องจากคาดรายได้เติบโตเล็กน้อยตามปัจจัยฤดูกาล low season ของการใช้บริการ ประกอบกับคาด Pent-up demand ในกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติลดลง และยังมีปัจจัยลบเฉพาะของคูเวต, พม่า นอกจากนี้ การเปิดใช้เตียงที่ปรับปรุงเสร็จ 67 เตียง กดดันอัตรากำไรขั้นต้นให้ลดลง


นอกจากนี้ คงคำแนะนำ “Trading  Buy” และปรับราคาเป้าหมายปี 2567 ขึ้นเป็น 275 บาท จากเดิม 270 บาท เนื่องจากคาดกำไรสุทธิปีนี้จะกลับมาเติบโตอัตราปกติที่ 3% และมีจุดเด่นด้านบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายจากไม่มีเครือข่าย และสัดส่วนรายได้ต่างชาติเกินกว่า 50% ทำให้มีอัตรากำไรสุทธิสูงสุดในกลุ่มการแพทย์


อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการรองรับผู้ป่วย (Capacity) จำนวนเตียงจำกัด และมีอัตราใช้เตียงเฉลี่ย 80% เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตระยะยาว


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ