นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) รายงานว่า เราคาดว่า TRUE จะรายงานผลประกอบการ 1Q67F ดีขึ้น โดยขาดทุนสุทธิเหลือ 753 ล้านบาท พลิกจากไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ที่ขาดทุนสุทธิ 1.12 หมื่นล้านบาท เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อน และปีก่อน และจะพลิกฟื้นได้ในไตรมาสต่อๆ ไปของปี 2567
ผลสำคัญจะมาจาก TRUE ยังคงได้อานิสงส์จากการปรับราคาแพ็กเกจ และปัจจัยฤดูกาล ผลประกอบการที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน จะมาจาก 1 อานิสงส์จากแพ็กเกจราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจมือถือ และ FBB 2 SG&A ลดลงตามฤดูกาล และ 3 อานิสงส์จากควบรวมกับ DTAC ส่วนผลประกอบการที่ดีขึ้นจะมาจากการแข่งขันที่ลดลง และอานิสงส์จากการควบรวม
ถึงแม้ต้นทุนจะสูงขึ้นจากดอกเบี้ย และการรวมกิจการ เราคาดว่ารายได้จากธุรกิจมือถือจะเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน จาก blended ARPU ที่เพิ่มขึ้นเป็น 206 บาท เพิ่มขึ้นจาก 204 บาท ในไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจำนวนผู้ใช้บริการจะเพิ่มขึ้นสุทธิ 359,000 ราย เพิ่มขึ้น 0.7% จากไตรมาสก่อน ตามจำนวนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น
เราคาดว่ารายได้จาก บริการไฟเบอร์ออฟติก จะเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน และ 6% จากปีก่อน โดยจำนวนผู้ใช้บริการทรงตัวอยู่ที่ 3.8 ล้านราย และ ARPU เพิ่มขึ้นเป็น 499 บาท เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน จากการปรับราคาแพ็กเกจเริ่มต้น และการยกเลิกส่วนลดค่าบริการ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าคาไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น 5% ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่เราคาดว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงข่ายของ TRUE จะทรงตัวจากไตรมาสก่อน เพราะได้อานิสงส์จากการรวมสายส่ง (single grid consolidation) น่าจะเริ่มทำกำไรได้ในอีกไม่ช้า เราเชื่อว่าผลประกอบการที่ดีขึ้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุน
ในขณะที่เราเห็นอัปไซด์ หากมีสัญญาณการพลิกฟื้นเร็วขึ้น และงบลงทุนลดลง เราคาดว่า TRUE จะขาดทุนสุทธิ 1.5 พันล้านบาท ปี 2567 ก่อนที่จะพลิกเป็นกำไรสุทธิ 1.38 พันล้านบาท ในปี 2568 และมีกำไร 2.9 พันล้านบาท ในปี 2569 หนุนจากทั้ง synergy และรายได้ที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง ทั้งนี้ในปลายเดือน พ.ค.2567 TRUE จะออกหุ้นกู้อายุ 1.3-10 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.95-4.5% ซึ่งต่ำกว่าชุดที่ออกเมื่อเดือนมกราคม 2567 10-20bps
ซึ่งเรามองว่าน่าจะช่วยลดต้นทุนในการก่อหนี้ของ TRUE ลงไปได้ในระดับหนึ่ง เรายังคงคำแนะนำซื้อ TRUE และ คงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 8.30 บาท เรายังมองว่า TRUE เป็นหุ้นที่เหมาะกับนักลงทุนที่ชอบเสี่ยง เพื่อเดิมพันกับการรับรู้มูลค่าของ synergy ที่จะเกิดขึ้นจากปี 2567 เป็นต้นไป ถึงแม้ว่าราคาหุ้นจะถูกขายทำกำไรไประดับหนึ่ง แต่ราคาหุ้นปัจจุบันมี EV/EBITDA ที่ 7.7x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มนี้ในภูมิภาคที่ 8.1 เท่า เราคิดว่าเมื่อผลประกอบการรายไตรมาสพลิกกลับมาเป็นบวก โมเมนตัมของราคาหุ้นน่าจะเร่งตัวขึ้นได้ต่อเราเชื่อว่านักลงทุนกำลังย่อย ประเด็นการจบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น และอานิสงส์จาก synergy อยู่ โดยมองว่า TRUE เหมาะกับธีมนี้ เพราะมีภาระหนี้สูง และมีการควบรวมกิจการขนาดใหญ่.