ตลท.อ้าแขนรับ Bitkub เข้า IPO เปิดกว้างทุกธุรกิจที่ “ไม่ผิดกฎหมาย” เผยรอคิวเข้าตลาดอีกกว่า 40 หุ้น

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ตลท.อ้าแขนรับ Bitkub เข้า IPO เปิดกว้างทุกธุรกิจที่ “ไม่ผิดกฎหมาย” เผยรอคิวเข้าตลาดอีกกว่า 40 หุ้น

Date Time: 3 เม.ย. 2567 09:14 น.

Video

สาเหตุที่ทำให้ Intel อดีตยักษ์ใหญ่ชิปโลก ล้าหลังยุค AI | Digital Frontiers

Summary

  • ตลท.ชี้ Bitkub เข้า IPO ได้ ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่ระดมทุนของบริษัททุกประเภทที่ถูกกฎหมาย แนะนักลงทุนต้องพิจารณาจากข้อมูล-ความเสี่ยง เผยมีบริษัทรอคิวเข้าตลาดอีกกว่า 40 หุ้น

Latest


หุ้นไอพีโอ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังสถานการณ์ภาวะตลาดหุ้นกลับมาเป็นใจ หนุนให้ราคาหุ้นไอพีโอหลายตัว พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในวันแรกของการซื้อขาย พร้อมกับกระแสข่าวแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของกระดานเทรดคริปโตฯ รายใหญ่ของไทย “บิทคับ (Bitkub)” ที่นักลงทุนกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่ด้วยธุรกิจแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล จะสามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้หรือไม่ และมีความเสี่ยงใดๆ ที่ต้องระวังหรือเปล่า 


แมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า ประเด็นบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ Bitkub มีแผนเข้าไอพีโอนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับเป็นที่ระดมทุนของบริษัททุกประเภท ที่ดำเนินธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง Bitkub ก็เป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาต (license) อย่างถูกต้องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งนโยบายของตลาดหลักทรัพย์ฯ มีเพียงอย่างเดียวคือไม่รับบริษัทที่ไม่ได้ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้


อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ความผันผวนของราคาคริปโตเคอร์เรนซี จะกระทบกับการดำเนินธุรกิจหรือไม่นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องพิจารณาจากข้อมูลที่บริษัทนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นจากหนังสือชี้ชวน หรือเอกสารประกอบการเสนอขายหุ้นต่างๆ ซึ่งการลงทุนโดยทั่วไปก็มีความเสี่ยงเช่นกัน


“ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. มีหน้าที่ดูว่าบริษัทส่งข้อมูลครบถ้วนตามที่กำหนดหรือไม่ ส่วนการพิจารณาว่าหุ้นตัวไหนน่าสนใจลงทุนหรือไม่ มูลค่าหุ้นควรจะเป็นเท่าไร มีความเสี่ยงด้านใดบ้าง เป็นเรื่องของนักลงทุนที่ต้องพิจารณา” แมนพงศ์ กล่าว


สำหรับภาพรวมสถานการณ์ของหุ้นไอพีโอในปี 2567 พบว่ามีบริษัทที่แสดงความสนใจในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ค่อนข้างหนาแน่น คล้ายกับปี 2566 ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 40 บริษัท ที่อยู่ระหว่างดำเนินการรอยื่นเอกสารให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)


โดยบริษัทที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น มองว่าจะพิจารณา 3 ประเด็นหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจเสนอขายหุ้นไอพีโอ ได้แก่

  1. การเตรียมพร้อมด้านข้อมูล เพื่อยื่นเอกสารคำขอเพื่อเสนอขายหุ้น และหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ให้สำนักงาน ก.ล.ต.
  2. ความต้องการระดมทุน เพื่อใช้เงินในการขยายธุรกิจ หรือความต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
  3. ภาวะตลาดหุ้น ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเข้าจดทะเบียน เพราะหากภาวะตลาดหุ้นไม่ดี อาจทำให้บริษัทไม่สามารถตั้งราคาเสนอขายหุ้นที่ต้องการได้

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์