ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น APO ผู้ประกอบธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพในการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท (+75.76%) โดยระหว่างการซื้อขายราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 2.86 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.87 บาท (+188%) จากราคาเสนอขายไอพีโอที่ 0.99 บาท
สิทธิภาส อุดมผลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น APO กล่าวว่า รู้สึกมีความยินดีสำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัททำการบ้านมาหนัก โดยมีการให้ข้อมูลนักลงทุน (โรดโชว์) อย่างต่อเนื่อง และต้องขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความมั่นใจกับธุรกิจ
สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต เปลี่ยนเครื่องจักรหม้อนึ่งจากแนวนอนเป็นแนวตั้ง เพื่อให้ได้น้ำมันที่มีคุณภาพดี และลดต้นทุนในระบบผลิต คาดว่าจะปรับปรุงแล้วเสร็จพร้อมดำเนินงานได้ภายในปี 2568 อีกส่วนหนึ่งใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเติบโตในการรับซื้อวัตถุดิบเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ทิศทางการดำเนินงานปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% และมีความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น โดยเป็นการเติบโตจากการนำวัตถุดิบเข้าระบบการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นราว 2.3 แสนตัน จากปีก่อน 2 แสนตัน
ทั้งนี้ แนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มยังดี โดยตลาดน้ำมันปาล์มดิบมีการขยายตัวอย่าง 8-9% ต่อปี ขณะที่ตลาดน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ขยายตัว 10-11% ต่อปี ส่วนไบโอดีเซลที่ใช้วัตถุดิบจากน้ำมันปาล์มดิบ เติบโตราว 6-7% จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการขนส่งของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสทางธุรกิจทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ตั้งแต่ด้านการจัดหาวัตถุดิบ การพัฒนาเมล็ดพันธุ์ปาล์มที่ให้ผลผลิตคุณภาพสูง การเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการผลิตให้หลากหลาย เช่น การต่อยอดธุรกิจจากผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ การผลิตน้ำมันเมล็ดในปาล์ม ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต
สมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นวันนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความยั่งยืนของการดำเนินงานที่มากกว่า 40 ปี ด้านผู้บริหารก็มีการวางแผนการเติบโตไว้อย่างชัดเจน โดยบริษัทจะนำเงินจากการระดมทุน ไปใช้สร้างการเติบโตและการเพิ่มขึ้นของผลกำไร
ขณะเดียวกัน มองว่าบริษัทมีฐานะทางการเงินที่เข้มแข็ง มีกำไรสะสมที่ยังอยู่ในบัญชีปัจจุบันกว่า 100 ล้านบาท ที่สามารถจ่ายปันผลและสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้หลังจากนี้
วรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ KFS ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวเสริมว่า ราคาหุ้นปรับตัวสะท้อนจากกระแสความสนใจของนักลงทุน ตั้งแต่วันที่เปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอเพียง 3 วัน โดยเชื่อว่า APO จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในการซื้อขายวันแรกและช่วงต่อจากนี้ จากการกำหนดราคาเสนอขายที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน
อีกทั้งกลุ่มผู้บริหารไม่ได้นำบริษัทเข้าตลาดหุ้นมาเพื่อถอนตัวออกจากธุรกิจ (Exit) แต่เข้ามาเพื่อที่จะดำเนินธุรกิจต่อ โดยผู้ถือหุ้นเดิมสมัครใจที่จะไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่เพิ่มเติมจากเกณฑ์ Sient Period ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นระยะเวลา 6 เดือนด้วย
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้