มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MGI หนึ่งในหุ้นที่สร้างสีสันให้กับตลาดหุ้นไทยหลังจากเข้าไอพีโอ ทั้งราคาหุ้นที่พุ่งอย่างร้อนแรง และประเด็นต่างๆ ที่ถูกพูดถึงเสมอ และล่าสุด MGI ได้ประกาศการเข้าถือหุ้น SABUY หรือบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 1.70% โดยสิ่งที่ MGI คาดหวังจากดีลนี้ คือ การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า และฐานลูกค้าของ SABUY ที่มีอยู่ทั่วประเทศ
ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) 30,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 4.5 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 135,000,000 บาท บริษัทฯ จะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 1.70 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท สบาย เทคโนโลยีจำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ บริษัทฯ ชำระค่าหุ้นสามัญด้วยกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทฯ บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ต้องการร่วมธุรกิจกับบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ที่สามารถช่วยต่อยอดและขยายธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจหลากหลายช่องทาง ดังนี้
1. ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าในเครือบริษัทฯ ผ่านตู้ Vending กว่า 13,000 จุดทั่วประเทศ
2. ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านระบบ Direct Sales
3. ช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านระบบ Telesales
4. ระบบการเงิน Sabuy Money และ Wallet
5. ระบบการเงินอื่นๆ ระบบผ่อนสบาย, P Loan และ Nano Loan
6. ระบบการจัดการฐานข้อมูลลูกค้า และ Digital Data ขนาดใหญ่ ที่เป็นฐานลูกค้าของกลุ่ม บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
7. ระบบการจัดส่ง และ Fulfillment - Sabuy Speed กว่า 21,000 จุดทั่วประเทศ
8. การใช้ Infrastructure และ Ecosystem ทางธุรกิจ เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่ระดับภูมิภาค
9. Media Channel Outlet ผ่านเครือข่ายตู้เติมเงิน และ Vending รวมกว่า 70,000 จุดทั่วประเทศ
เงื่อนไขการทำรายการดังกล่าว 1. บริษัทฯ มีอำนาจตัดสินใจการดำเนินงานของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทฯ สามารถส่งคณะกรรมการบริษัท เข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้ 1 ท่าน 2. บริษัทฯ สามารถส่งบุคลากรที่เหมาะสมเข้าไป ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้ เพื่อไปดำเนินงานบริหารบริษัทฯ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
อนึ่งการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวข้างต้นเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่าย เป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (“ประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไป”) โดยมีขนาดรายการซึ่งคำนวณตามเกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดตามประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไป แล้วมีขนาดรายการสูงสุดเท่ากับร้อยละ 22.30 โดยอ้างอิงจากงบการเงินประจำปี 2566 ซึ่งตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต โดยเมื่อรวมรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้มีขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์รวมเท่ากับร้อยละ 22.30 จึงเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดรายการเกินกว่าร้อยละ 15 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปของคณะกรรมการตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 บริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผย สารสนเทศเกี่ยวกับการเข้าทำรายการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจัดส่งหนังสือเวียนแจ้งให้แก่ผู้ถือหุ้นทราบภายใน 21 วัน นับจากวันที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ รายละเอียด รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ปรากฏตามสารสนเทศรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทตามรายละเอียด ปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ