เปิดเหตุผลต่างชาติขาย 7 หมื่นล้าน แต่ยังซื้อหุ้น AMATA ที่ดินรอโอนสูงสุดในประวัติศาสตร์

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดเหตุผลต่างชาติขาย 7 หมื่นล้าน แต่ยังซื้อหุ้น AMATA ที่ดินรอโอนสูงสุดในประวัติศาสตร์

Date Time: 23 มี.ค. 2567 07:00 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • เปิดเหตุผลนักลงทุนต่างชาติยังซื้อหุ้น AMATA แม้ปีนี้ขายหุ้นไทยสุทธิกว่า 7 หมื่นล้าน โบรกฯ ชี้รับผลบวกย้ายฐานผลิต หนุน Backlog สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดกำไรโตทะลุ 20%

เป็นที่น่าจับตาสำหรับ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AMATA หลังพบว่ายังมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ ที่ทยอยเข้าถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ตั้งแต่ต้นปี 2567 จะขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยกว่า 7 หมื่นล้านบาท น่าสนใจว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเลือกลงทุนหุ้นนิคมอุตสาหกรรมนี้


โดย “Thairath Money” ได้สำรวจความคิดเห็นโบรกเกอร์ พบว่าหลายแห่งมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางของผลประกอบการ โดยชี้ว่า AMATA จะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต พร้อมกับมียอดขายที่ดินรอโอน (Backlog) ปลายปีก่อนสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งจะหนุนให้กำไรในปีนี้เติบโตได้ดี


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กระแสเงินลงทุนจากต่างชาติ ยังหนุนหุ้น AMATA ต่อเนื่อง แม้ตั้งแต่ต้นปี 2567 จะขายหุ้นไทยสุทธิกว่า 7 หมื่นล้านบาท แต่หุ้น AMATA ยังเป็นหุ้นที่ต่างชาติซื้อต่อเนื่อง ด้วยสัดส่วนการถือครองของต่างชาติที่เพิ่มขึ้น 1.5% จากต้นปี และซื้อสะสมแล้ว 4.0% ตั้งแต่ต้นปี 66 รวมถึงซื้อสุทธิผ่าน NVDR ด้วยเม็ดเงินราว 1.0 พันล้านบาท ทำให้เรามองว่าแรงซื้อจากต่างชาติ จะช่วยหนุนหุ้น AMATA ต่อเนื่อง


ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2566 AMATA มียอด Backlog สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.43 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 3 เท่าของยอดโอนที่ดินในปีที่แล้วโดยเฉลี่ยแล้ว ยอดโอนที่ดินในปีถัดไปจะคิดเป็นราว 70% ของ Backlog ณ สิ้นปี เราจึงคาดว่ายอดโอนที่ดินปีนี้ จะแข็งแกร่งอย่างมากที่ 6.6 พันล้านบาท หรือเติบโต 43% จากปีก่อน ซึ่งคิดเป็นราว 45% ของ Backlog เท่านั้น


ขณะเดียวกัน คาดการณ์กำไรของ AMATA เติบโตเฉลี่ย 21% ต่อปี ในปี 2567-2568 หนุนโดยยอดโอนที่ดินที่จะเติบโตได้เฉลี่ย 24% ต่อปี จาก Backlog ที่สูงเป็นประวัติการณ์ และคาดว่ายอดขายที่ดินปีนี้ จะช่วยเติม Backlog ใหม่ต่อเนื่องอีกทั้งสัดส่วนการโอนจากอมตะชลบุรีที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนอัตรากำไรให้เพิ่มขึ้นด้วยนอกจากนั้น ก็คาดว่าส่วนแบ่งกำไรจะเพิ่มขึ้นตามกำไรของโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มขึ้นตามต้นทุนก๊าซลดลง แต่คาดค่า Ft คงที่ตลอดทั้งปี


อย่างไรก็ดี มองว่าหุ้น AMATA มีความน่าสนใจอย่างมาก จากยอดขายที่ดินและกำไรที่โดดเด่นต่อเนื่อง และหากดูองค์ประกอบของสินทรัพย์จะพบว่าเป็นเงินสดและที่ดินรวมกันถึงกว่า 80% โดยที่ดินยังคงบันทึกด้วยราคาทุนขณะที่มูลค่าตลาดปรับขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มองว่ามูลค่าหุ้นปัจจุบันที่ P/B 1.2 เท่า ยังไม่แพง เมื่อเทียบกับมูลค่าที่ดินและผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) 12% ประเมินราคาเป้าหมายที่ 30 บาท โดย Upside จะมาจากยอดโอนที่ดินมากกว่าคาด และมูลค่าเพิ่มจากการทำไอพีโอหุ้น Amata U ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีในช่วงที่กำไรของธุรกิจโรงไฟฟ้าฟื้นตัว


ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยังคงแนะนํา “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 30.30 บาท เพราะมองว่า AMATA เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลดีจาก การย้ายฐานการผลิตจากจีนเพื่อเลี่ยงปัญหาสงครามการค้า ซึ่ง AMATA มีนิคมที่พร้อมขายอยู่ทั้งหมด 2 ประเทศ คือที่ไทยและเวียดนาม และอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการที่ประเทศลาวเพิ่มอีกแห่ง


นอกจากนี้ จากฐาน Backlog ที่มีกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ทําให้คาดว่า ผลประกอบการในปี 2567 ยังคงเห็นการเติบโตได้ หากเกิดเหตุการณ์ ที่ยอดขายที่ดินในปี 2567 ไม่เป็นไปตามเป้าที่บริษัทตั้งไว้ที่ระดับ 1,800 ไร่ โดยเราคาดรายได้ที่ 10,976 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,246 ล้านบาท เติบโต 19% จากปีก่อน ทั้งนี้ AMATA ประกาศจ่ายปันผลงวดผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2566 จํานวน 0.4 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 9 พ.ค. และจะจ่ายปันผลวันที่ 24 พ.ค. 2567


ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/67 น่าจะด้อยกว่าไตรมาส 1/66 เนื่องจากลูกค้าบางรายโอนเงินค่ามัดจำไม่ทันกำหนด ส่งผลให้ยอดขายที่ดินลดลง ประกอบกับดอกเบี้ยจ่ายที่ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยประเมินว่าผลประกอบการปี 2567 มีโอกาสทำได้ดีกว่าปี 2566 ด้วยความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ (รัสเซีย-ยูเครน) ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี โดยที่ยังไม่เห็นแนวโน้มที่ความเสี่ยงดังกล่าวจะจบลง ในระยะเวลาอันสั้น แต่ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมองประเทศไทยเป็นทางเลือกในการย้ายฐานการผลิตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2567 อิง P/E ที่ระดับ 14.8 เท่า ได้ราคาเหมาะสม 27.30 บาท ให้คำแนะนำซื้อ


ในปี 2567 ผู้บริหารตั้งเป้าการขายที่ดินไว้ที่ 2,525 ไร่ แบ่งเป็น ชลบุรี 1,150 ไร่ ระยอง 1,000 ไร่ และเวียดนาม 375 ไร่ โดยเป้าดังกล่าวสูงกว่าเป้าปี 2566 ที่เคยตั้งไว้ที่ 2,250 ไร่ (ไทย 1500 ไร่, เวียดนาม 750 ไร่) หากสามารถบรรลุเป้าดังกล่าวได้ จะส่งผลต่อ upside ต่อประมาณการกำไรปี 2567 อย่างมาก เนื่องจากที่ดินที่จังหวัดชลบุรีมีราคาขายสูงและมีกำไรขั้นต้นราว 60% ด้วยความต้องการซื้อที่ดินที่ปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทาง AMATA มีการปรับราคาขายที่ดินเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาต้นทุนที่ดินยังเป็นราคาเก่า

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ