บล.บัวหลวง มองหุ้นไทยครึ่งแรกปี 67 ชี้ว่า แม้ดัชนีจะผ่าน 1,400 จุด แต่ไปต่อไม่ได้ ขาดปัจจัยหนุน คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 1 ปี 67 อาจชะลอตัวลง โดยผลประกอบการที่ออกมาน่าจะคิดเป็น 24% ของประมาณการทั้งปี จึงไม่มีแรงส่ง ทำให้เกิดการ Upgrade เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยจากเดิม ซึ่งสัดส่วนกำไรที่จะสร้าง Positive Surprise ต้องอยู่ 26-28% ขึ้นไป ถึงจะเป็นแรงส่งต่อตลาดหุ้นได้
มองดัชนีแกว่งในกรอบ 1,350-1,400 จุด แต่หลังรัฐเบิกจ่ายงบฯ ปี 67 และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 67 หนุนให้ดัชนีฟื้นตัวได้ มองเป้าหมายดัชนีสิ้นปี 67 ระดับ 1,603 จุด บน EPS ที่ 95.7 ยกเว้นถ้าราคาน้ำมันพุ่งแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะดันกำไรกลุ่มพลังงานขึ้น หนุนตลาดรวม แต่โอกาสยังมีน้อย
ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยช่วง 2 เดือนแรกปี 67 (ม.ค.-ก.พ.) Underperform เมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ ที่ปรับขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 67 ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทน 2-5% แต่ดัชนีหุ้นไทยให้ผลตอบแทนติดลบ 2.2%
นักลงทุนยังกังวล ล่าสุด สภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 67 โตเหลือ 2.2-3.2% ลดลงจากเดิมที่ 2.7-3.7% ปัจจัยที่ต้องติดตามคือประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบฯรัฐ และเมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมทั้งให้จับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ หาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้เป็นประธานาธิบดีสมัยหน้า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์อาจรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียได้รับผลด้านลบจากความกังวลสงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯ-จีน หนักขึ้น
ความเสี่ยง คือนักวิเคราะห์อาจปรับลดประมาณการกำไร บจ.ลงต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1 ปี 67 กำไรรวมของบริษัทจดทะเบียนคาดว่าจะลดลง 6% เทียบกับปีก่อน รับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงาน ขณะที่กลุ่มเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศและท่องเที่ยวยังเติบโตดี
หุ้นแนะเพิ่มน้ำหนักลงทุน คือ โรงแรมและกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอยในประเทศ รวมถึงรับเหมาก่อสร้าง ส่วนกลุ่มที่ลดน้ำหนักลงทุน คือปิโตรเคมีจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (Spread) ที่ลดลงจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ส่วนอสังหาริมทรัพย์ดีมานด์บ้านและคอนโดช่วง 5-10 ปี ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะที่ภูเก็ต ส่วนกลุ่มยานยนต์ แบงก์ และอาหาร ยังคงแนะนำถือ!!
อินเด็กซ์ 51