BKGI เทรดวันแรกพุ่ง 33% อัดงบ 100 ล้าน ลุยตั้งห้องแล็บ-ขยายบริการใหม่ ดันรายได้โตแรง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

BKGI เทรดวันแรกพุ่ง 33% อัดงบ 100 ล้าน ลุยตั้งห้องแล็บ-ขยายบริการใหม่ ดันรายได้โตแรง

Date Time: 20 มี.ค. 2567 14:01 น.

Video

สาเหตุที่ทำให้ Intel อดีตยักษ์ใหญ่ชิปโลก ล้าหลังยุค AI | Digital Frontiers

Summary

  • BKGI เทรดวันแรกเหนือจอง 33.74% วางงบปี 67 ที่ 100 ล้านบาท ลุยขยายแล็บ-ศูนย์รับตัวอย่าง เชื่อธุรกิจเดิมโตต่อ ดันรายได้โต 30-50% พร้อมลุยขยายบริการใหม่ ทดสอบธาลัสซีเมียในไทย ใช้เทคโนโลยี บริษัทแม่ในจีน คาดสัดส่วนรายได้ปีนี้ แตะ 5%

บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BKGI เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (20 มี.ค.67) เปิดตลาดที่ราคา 2.18 บาท เพิ่มขึ้น 33.74% จากราคาจองซื้อไอพีโอที่ 1.63 บาท โดยระหว่างการซื้อขายช่วงเช้าราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 2.60 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 59.50%


โดย BKGI ประกอบกิจการห้องปฏิบัติการ และให้บริการการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ด้วยการให้บริการที่ตอบโจทย์การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกช่วงวัย ภายใต้การสนับสนุนหลักจากกลุ่ม BGI ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยการถอดรหัสพันธุกรรม และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวสารสนเทศที่ล้ำสมัย  


ล่าสุด บริษัทประกาศแผนปี 2567 วางงบลงทุนรวมที่ 50-100 ล้านบาท ลุยขยายแล็บและศูนย์รับตัวอย่าง หลังมองเห็นโอกาสเติบโตในธุรกิจเดิม โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 30-50% พร้อมลุยขยายบริการใหม่ “ตรวจคัดกรองโรคธาลัสซีเมีย” ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีจากบริษัทแม่ในจีน คาดว่าสัดส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะขึ้นไปอยู่ที่ 5% ของรายได้รวม


ดร.เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BKGI เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นวันนี้ มองว่าเป็นเพราะว่านักลงทุนให้ความเชื่อมั่น เนื่องจากเราเป็นบริษัทไบโอเทคฯ รายแรกของประเทศไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และธุรกิจกำลังอยู่ในเมกะเทรนด์ 


ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนขยายการให้บริการด้านสุขภาพมากขึ้นในปีนี้ เช่น การตรวจคัดกรองโรคธาลัสซีเมีย เพื่อป้องกันและลดจำนวนการเกิดโรคดังกล่าว ซึ่งบริษัท BGI มีเทคโนโลยีและความรู้ความสามารถที่จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ได้ โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากการให้บริการดังกล่าวจะอยู่ที่ 5% ของรายได้รวม


ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโตที่ระดับ 30-50% โดยการเติบโตจะมาจากแผนการตั้งห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ (แล็บ) ในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถานศึกษาทางการแพทย์ ที่มีโครงการร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยังมีการเติบโตของรายได้จากการขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย


นอกจากนี้ บริษัทวางงบลงทุนไว้ราว 50-100 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ เครื่องอ่านลำดับพันธุกรรมมากขึ้น และศูนย์รับตัวอย่างพันธุกรรมในต่างจังหวัดมากขึ้น


“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ทั้งในเชิงธุรกิจและยกระดับการสาธารณสุขของไทย โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และต่อยอดธุรกิจการแพทย์จีโนมิกส์ เพื่อการรักษาพยาบาลและการดูแลสุขภาพเพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีในทุกช่วงชีวิต ก้าวสู่การเป็นองค์กรชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรของประเทศ” เสาวลักษณ์ กล่าว


ด้าน สมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ เปิดเผยว่า จุดเด่นของ BKGI คือการเป็นบริษัทในกลุ่มของ BGI ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านเทคโนโลยี และงานวิจัยด้านพันธุศาสตร์ เพราะฉะนั้นองค์ความรู้ต่างๆ จะถูกถ่ายทอดมายังบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทลูกด้วย


อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้สัดส่วนรายได้หลักมาจากการให้บริการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์จากเลือดมารดา ภายใต้แบรนด์ “NIFTY” เพียงผลิตภัณฑ์เดียว แต่วันนี้ผู้บริหารของ BGI ก็มีนโยบายในการผลักดัน “การตรวจคัดกรองโรคธาลัสซีเมีย” เพื่อป้องกันโรคธาลัสซีเมียให้หายไปจากประเทศไทย ซึ่งจะเป็นตัวสร้างการเติบโตในอนาคต

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ