แกะพอร์ต “ประกันสังคม” ถือกองทรัสต์อะไรบ้าง หลัง URBNPF เสี่ยงมูลค่าเหลือศูนย์

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

แกะพอร์ต “ประกันสังคม” ถือกองทรัสต์อะไรบ้าง หลัง URBNPF เสี่ยงมูลค่าเหลือศูนย์

Date Time: 19 มี.ค. 2567 13:26 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

การแจ้งเตือนของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกรณีของ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา (URBNPF) กลายเป็นที่จับตาอย่างมาก โดยเหตุผลหลักมาจากความเสี่ยงของกองทุน URBNPF อาจมีมูลค่าเหลือ 0 โดยตามที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา (URBNPF หรือกองทุน) แจ้งการอาจถูกบอกเลิกสัญญาสิทธิการเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ผู้ให้เช่า) ซึ่งเป็นเหตุแห่งการเลิกกองทุน เนื่องจากกองทุนรวมได้รับหนังสือแจ้งยุติการชำระค่าเช่าจากบริษัทเออร์บานาเอสเตท จำกัด (ผู้เช่าช่วง)

ซึ่งอาจส่งผลให้กองทุนไม่สามารถชำระค่าเช่าให้กับผู้ให้เช่าได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดคือวันที่ 31 มีนาคม 2567 และอาจถูกบอกเลิกสัญญาสิทธิการเช่า ซึ่งเป็นเหตุแห่งการเลิกกองทุน โดย ณ วันที่กองทุนรวมถูกบอกเลิกสัญญาเช่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนจะเท่ากับศูนย์ (รายละเอียดปรากฏตามข่าว URBNPF วันที่ 15 มีนาคม 2567)


ความกังวลในเรื่อง URBNPF ไม่ได้กระทบกับผู้ถือหน่วยเท่านั้น แต่สร้างความตระหนกไปถึงสมาชิกประกันสังคม ด้วย โดยสำนักงานเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 1 ด้วยจำนวนหุ้น 21 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 30% ของหุ้นทั้งหมด ซึ่งหากกองทุนไม่สามารถชำระค่าเช่าได้ตามกำหนด มูลค่าลงทุนดังกล่าวอาจกลายเป็น 0 ทันที 

อย่างไรก็ตามนอกจากกองทุน URBNPF เรายังพบว่า ประกันสังคมได้ถือหน่วยลงทุนในองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานถึง 32 หลักทรัพย์เลยทีเดียว 

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานว่า พอร์ตลงทุนของประกันสังคมที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยทั้งสิ้น 94 หลักทรัพย์ มีการถือกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 32 หลักทรัพย์ โดยมีการลงทุนได้แก่ 

1. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ หรือ WHART   ถือ 465 ล้านหุ้น 

2. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREIT. จำนวน 363 ล้านหุ้น

3. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNREIT จำนวน 197 ล้านหุ้น 

4. กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาฯ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตส์ หรือ MJLF จำนวน 103 ล้านหุ้น 

5. กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ หรือ POPF จำนวน 68 ล้านหุ้น 

6. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PPF จำนวน 20 ล้านหุ้น 

7. กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี.ทาวเวอร์ โกรท หรือ CPTGF. จำนวน 99 ล้านหุ้น   

8. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท หรือ ERWPF. จำนวน 55 ล้านหุ้น  

9. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าเหมราชอินดัสเตรียล HPF จำนวน 20 ล้านหุ้น 

10. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น KPNPF จำนวน 38 ล้านหุ้น 

11. กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ หรือ QHOP จำวน 63 ล้านหุ้น 

12. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ หรือ SIRIP จำนวน 46 ล้านหุ้น 

13. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท IMPACT. จำนวน 117 ล้านหุ้น   

14. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าดุสิตธานี หรือ DREIT. จำวน 180 ล้านหุ้น   

15. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล หรือ ALLY. จำนวน 144 ล้านหุ้น  

16. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ หรือ BRRGIF จำนวน 25 ล้านหุ้น     

17. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ หรือ WHABT จำนวน 55 ล้านหุ้น  

18. กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค หรือ FUTUREPF จำนวน 38 ล้านหุ้น   

19. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ หรือ BOFFICE. จำนวน 64 ล้านหุ้น  

20. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ หรือ GVREIT. จำนวน 55 ล้านหุ้น      

21. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา หรือ SRIPANWA จำนวน 63 ล้านหุ้น   

22. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แกรนด์ โฮสพีทาลิตี้ หรือ GAHREIT. จำนวน 37 ล้านหุ้น     

23. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท หรือ SPRIME. จำนวน 45 ล้านหุ้น     

24. กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ หรือ QHOP. จำนวน 63 ล้านหุ้น     

25. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ หรือ TPRIME.  จำนวน 25 ล้านหุ้น   

26. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิศ B-WORK. จำนวน 33 ล้านหุ้น    

27. กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ หรือ TU-PF จำนวน 80 ล้านหุ้น   

28. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้ หรือ TLHPF จำนวน 39 ล้านหุ้น 

29. กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา หรือ URBNPF มูลค่า 21 ล้านหุ้น 

30. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล DIF จำนวน 321 ล้านหุ้น  

31. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFFIF จำนวน 149 ล้านหุ้น  

32. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท BTSGIF. จำวน 243 ล้านหุ้น.  

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ