ORI ถึงเวลาต้องชะลอลงทุน เมื่อการเติบโตไม่มาตามคาด หนี้ครัวเรือนกดทับ ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ORI ถึงเวลาต้องชะลอลงทุน เมื่อการเติบโตไม่มาตามคาด หนี้ครัวเรือนกดทับ ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง

Date Time: 3 มี.ค. 2567 10:19 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • หุ้น ORI ปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดตลาดที่ 6.85 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -9.87% หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/66 ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ นักวิเคราะห์ฯ แนะชะลอลงทุน

Latest


ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ORI ปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดตลาดที่ 6.85 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -9.87% หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/66 ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้


โดย ORI ประกาศผลการดําเนินงานสําหรับปี 2566 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 1.5 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีกําไรสําหรับปีส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นจํานวน 2.7 พันล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ลดลงเหลือ 47 ล้านบาท


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า ราคาหุ้น ORI ปรับตัวลดลง มองว่ามาจากกำไรสุทธิในไตรมาส 4/66 ออกมาอ่อนตัว และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ โดยให้คำแนะนำนักลงทุนให้ “ชะลอลงทุน” ไปก่อนในช่วงนี้


ทั้งนี้ ประเมินผลประกอบการปี 2567 ยังมีแนวโน้มไม่ค่อยดีนัก แม้มีโอกาสเติบโตได้จากปี 2566 เพราะฐานที่ต่ำ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะหดตัวเหลือราว 3.7 พันล้านบาท จากแผนการเปิดโครงการใหม่ที่ลดลง และสินค้าพร้อมขายส่วนใหญ่เป็นโครงการร่วมทุน (JV) ซึ่งจะทำให้การรับรู้สัดส่วนกำไรจากการถือหุ้นลดลงตามไปด้วย


ทั้งนี้ ในที่ประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้บริหารยังคงมีความกังวลประเด็นหนี้ครัวเรือน และประเด็นทางด้านเศรษฐกิจ ที่อาจส่งผลต่อกำลังซื้อและความต้องการที่อยู่อาศัย สะท้อนจากยอดปฏิเสธสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา


นอกจากนี้ ผู้บริหารมีแผนเลื่อนการนำบริษัทย่อย บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไปเป็นปี 2568 จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถเข้าไอพีโอได้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทำให้อาจไม่มีเงินที่ได้จากการระดมทุนและมีผลกระทบต่อเงินสดในธุรกิจ


อย่างไรก็ดี คาดว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2/67 และไตรมาสที่ 3/67 จะออกมาดีที่สุดของปีนี้ สนับสนุนจากแผนนำร่องการเปิดโครงการแนวสูงทั้งหมด 10 โครงการ ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงกลางปี ซึ่งหลังจากนั้นอาจมีการประเมินทิศทางผลประกอบการอีกครั้งหนึ่ง

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์