ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI หลังกลับมาทำการซื้อขายในวันนี้ (29 ก.พ.) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง จนส่งผลให้ราคารูดติดฟลอร์ โดยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 45.75 บาท ปรับตัวลดลง 29.89%
โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างหนัก ภายหลังปลดเครื่องหมาย P ส่งผลให้มูลค่าบริษัทลดลงอย่างมาก โดยล่าสุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 9,450 ล้านบาท หรือมีมูลค่าที่ลดลง 4,200 ล้านบาท ภายในวันเดียว
กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ ThairathMoney ว่า การมองหุ้น MGI นั้นต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก ในด้านพื้นฐานของธุรกิจ เรามองว่า MGI มีพื้นฐานที่ดี และแข็งแกร่ง มีการเติบโตของกำไรที่สูง แต่ในส่วนที่ 2 คือ ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 13 เท่า นับจากราคาไอพีโอ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนดูไม่สอดคล้องกัน
เมื่อเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว จึงเป็นธรรมดาที่ราคาหุ้นจะไหลกลับมาหาปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็น ซึ่งหลังจากนี้ มองว่าราคาหุ้นจะเริ่มสะท้อนกับปัจจัยพื้นฐานมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งผลของ MGI ที่ปรับตัวลดลงก็กดดันไปยังหุ้นตัวอื่นๆ ด้วย อย่าง KAMART ที่ราคาปรับตัวลดลงนั้น ส่วนหนึ่งเพราะ KAMART ถือหุ้น MGI อยู่ เมื่อราคา MGI ปรับลดลง ทำให้คาดการณ์ผลการลงทุนในหุ้น MGI ตามสัดส่วนการถือหุ้นก็ลดลงไปด้วย ส่วน บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA มีประเด็นในเรื่องของคุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล เข้าไปถือหุ้น ก็เกิดแรงขายออกมาเช่นกัน