BANPU ถึงกับวูบ กำไรลด 86% เหลือราว 5.7 พันล้าน รับราคาถ่านหิน-ก๊าซฯ ดิ่ง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

BANPU ถึงกับวูบ กำไรลด 86% เหลือราว 5.7 พันล้าน รับราคาถ่านหิน-ก๊าซฯ ดิ่ง

Date Time: 22 ก.พ. 2567 12:10 น.

Video

คนไทยจ่ายภาษีน้อย มนุษย์เงินเดือนรับจบ ปัญหาอยู่ที่ระบบหรือคนกันแน่ ? | Money Issue

Summary

  • BANPU รายงานกำไรสุทธิปี 66 จำนวน 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 5.7 พันล้านบาท) ลดลง 1,002 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท) คิดเป็น 86% จากราคาตลาดของก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวลดลง

Latest


บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BANPU รายงานผลประกอบการปี 2566 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มบริษัทรายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 5.7 พันล้านบาท) ลดลง 1,002 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท) คิดเป็น 86% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปัจจัยหลักจากราคาตลาดของก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวลดลงจากปีก่อน ส่งผลให้ค่าภาคหลวงรวมทั้งขาดทุนจากอนุพันธ์ทางการเงินลดลงจากปีก่อนเช่นกัน


นอกจากนี้ในระหว่างปีกลุ่มบริษัทได้เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วและสามารถรับรู้รายได้และสร้างกระแสเงินสดได้ทันทีกลุ่มบริษัทยังคงดำเนินมาตรการในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม เพื่อให้บริษัทสามารถเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของตลาดพลังงานได้อย่างมั่นคงและมุ่งเน้นการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง


สำหรับรายได้จากการขายรวม จำนวน 5,159 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 179,619 ล้านบาท) ลดลงจำนวน 2,534 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากปีก่อน โดยรายได้ลดลงจากธุรกิจถ่านหิน 1,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐและธุรกิจก๊าซ 923 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ 186 ล้านดอลลาร์สหรัฐและธุรกิจอื่นๆ 83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. รายได้จากธุรกิจถ่านหิน จำนวน 3,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 64% ของรายได้รวม โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • แหล่งผลิตในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย 2,386 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • แหล่งผลิตในประเทศออสเตรเลีย 805 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ธุรกิจซื้อขายถ่านหิน 119 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

2. รายได้จากธุรกิจก๊าซในประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 735 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 14% ของรายได้รวม

3. รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ จำนวน 932 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 18% ของรายได้รวม เป็นรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศออสเตรเลีย โรงไฟฟ้าพลังงานลมและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกา

4. รายได้จากธุรกิจอื่นๆ จำนวน 182 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 4% ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า (Energy Trading) ในประเทศญี่ปุ่น และธุรกิจผลิตและติดตั้งระบบแบตเตอรี่ในประเทศสิงคโปร์

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์